กองประชาสัมพันธ์ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย แนะนำความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทางพิเศษ กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินบนทางพิเศษ เช่น น้ำมันหมด ยางแตก รถเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ ดังนี้
1. เปิดไฟสัญญาณกะพริบคู่ (ไฟฉุกเฉิน) ตลอดเวลา
2. กรณีที่สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลผู้ใช้ทางพิเศษ โทร. 1543 โดยไม่ต้องลงมาจากรถ
3. กรณีที่ไม่สามารถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ ให้ใช้โทรศัพท์ฉุกเฉินที่การทางพิเศษฯ ติดตั้งไว้บนไหล่ทางด้านซ้ายทุก 500-1,000 เมตร เพื่อโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือและกลับไปนั่งรอในรถ
นอกจากนี้ การทางพิเศษฯ ยังขอความร่วมมือผู้ขับขี่ใช้ทางพิเศษด้วยความระมัดระวังและปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย
ขณะที่ นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า สาเหตุหลักของพฤติกรรมการแซงซ้ายเข้าช่องฉุกเฉินเกิดขึ้นบ่อยครั้งบนทางด่วน เพราะบางคนคุ้นชินกับช่วงเวลารถติดจะอาศัยเป็นช่องฉุกเฉิน เพื่อเลี่ยงรถติดและติดนิสัยนำมาใช้ในช่วงเวลาปกติ ซึ่งตามกฎหมายถือว่ามีความผิด ดังนั้นจึงเห็นว่าควรมีการบังคับใช้กฎหมายเรื่องห้ามแซงซ้ายและห้ามวิ่งช่องฉุกเฉินอย่างเข้มงวด
อีกทั้งยังเสนอให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยกรณีมีรถจอดเสียบนทางด่วน และควรมีการอบรมหลักสูตรการเข้าช่วยเหลือและแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินบนถนน เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
ย้อนเหตุการณ์รถชนคนตกทางด่วนเสียชีวิตปี 2561
ในปี 2561 เกิดอุบัติเหตุขณะมีรถจอดเสียบนทางด่วน โดยมีรถยนต์พุ่งเข้าชนท้าย สาเหตุหลักเกิดจากการขับรถด้วยความเร็วและชอบแซงซ้ายในช่องฉุกเฉิน
27 ก.ค. มีรถจอดเสียบนไหล่ทางด้านซ้าย บนทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ก่อนถูกรถอีกคันขับชนท้ายและยังมีรถกระบะอีกคันชนท้ายซ้ำอีก เหตุการณ์นี้ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน
3 ก.ย. มีรถจอดเสียบนไหล่ทางด้านซ้าย บนทางพิเศษฉลองรัช ก่อนถึงทางลงสุขุมวิท 50 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เหตุการณ์มีผู้เสียชีวิต 1 คน
และล่าสุด 11 ธ.ค. เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งพุ่งชนรถกระบะที่จอดเสียบนทางด่วนศรีรัช ฝั่งขาเข้า ใกล้วัดบัวขวัญ จ.นนทบุรี จนทำให้มีคนตกจากทางด่วน เสียชีวิต 2 คน ส่วนคนขับรถเก๋งได้รับบาดเจ็บ