วันนี้ (28 ธ.ค.2561) เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมรูปปั้นเงือกทองให้อยู่ในสภาพสวยงามดังเดิม โดยมีการเชื่อมต่อท่อนหาง เข้ากับส่วนขาเรียบร้อยแล้ว หลังได้รับความเสียหายจากเหตุลอบวางระเบิดกลางดึกของวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งเดินทางมาถ่ายรูปคู่กับปฎิมากรรมรูปปั้นเงือกทองอย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวบริเวนแหลมสมิหลา จ.สงขลา กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ส่วนความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ทั้งหมด เพื่อหาเบาะแสผู้ก่อเหตุ รวมถึงการนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยในหลายจุดของ จ.สงขลา พร้อมทั้งได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย 2 คนไปสอบปากคำยังศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี แต่ทั้ง 2 คนยังคงให้การปฏิเสธ
ขณะที่บริเวณย่านธุรกิจกลางเมืองหาดใหญ่ก็คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์จำนวนมาก ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยส่วนใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยวกันทั้งครอบครัว นักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งที่เดินทางมาจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า ชื่นชอบหาดใหญ่เนื่องจากมีชาวมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีอาหารอร่อยและที่สำคัญไม่รู้สึกกังวลกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เนื่องจากเชื่อมั่นมาตรการรักษาความปลอดภัย
ด้านนายสุรพล กำพลานนวัฒน์ นายกสมาคมสมาพันธ์ธุรกิจท่องเที่ยวสงขลา ระบุว่า แม้จะเกิดเหตุระเบิด แต่ไม่ส่งผลกระทบภาพรวมการท่องเที่ยวของจังหวัดแต่อย่างใด เพราะไม่มีการแจ้งยกเลิกการเข้ามาท่องเที่ยวและเชื่อมั่นว่าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะมีเม็ดเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวกว่า 250 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในวันนี้ (28 ธ.ค.) ผู้นำศาสนาในพื้นที่ อ.สะเดา ได้ร่วมกันประกอบพิธีละหมาดฮายัต เพื่อขอให้เกิดความสันติสุขขึ้นในพื้นที่ ภายหลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดหลายจุด โดยเฉพาะการลอบวางระเบิดรูปปั้นเงือกทอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจของชาวสงขลาอย่างมาก