วันนี้ (4 ม.ค.2561) นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน ระบุว่า แหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันดิบในอ่าวไทย ขณะนี้ยังดำเนินการผลิตต่อไป ยกเว้น แหล่งบงกชเหนือ ที่หยุดผลิตไป เพราะอยู่ในเส้นทางพายุ ทำให้ก๊าซธรรมชาติลดลงในปริมาณเท่าเมื่อวานนี้ที่ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และน้ำมันดิบลดลงอยู่ที่ 27,000 บาร์เรลต่อวัน
ขณะที่แหล่งก๊าซธรรมชาติไพลินเหนือสามารถกลับมาผลิตได้อีกครั้งเร็วกว่าแผนหลังจากหยุดซ่อมบำรุง ทำให้มีก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยเข้าระบบมากขึ้น
ส่วนก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ที่ใช้เพิ่มเติม มีความพร้อมจ่ายได้สูงสุด 1,400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และมีสำรองมากพอรองรับหากมีแหล่งก๊าซต้องหยุดผลิตจากพายุเพิ่มเติม
ส่วนการผลิตที่แหล่งหยุดไป เนื่องจากพายุ แต่คาดว่าวันที่ 6 ม.ค.นี้ อาจจะมีเจ้าหน้าที่บางส่วนสามารถกลับเข้าไปที่แท่นเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์และรีสตาร์ทระบบขึ้นมาใหม่ ซึ่งในช่วงวันที่ 8-9 ม.ค.นี้ ก็จะมีการผลิตก๊าซเพิ่มขึ้นหลังพายุผ่านไปแล้ว
ด้านความมั่นคงของแท่นในอ่าวไทยมีรายงานจากผู้เชี่ยวชาญให้ความมั่นใจได้ว่า มีการรายงานความปลอดภัยตลอดเวลา และสามารถรองรับความแรงของพายุได้
กระทรวงพลังงานรายงานความคืบหน้าสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก ต่อการผลิตปิโตรเลียมในทะเลอ่าวไทย วันที่ 3 ม.ค. ว่าได้อพยพเจ้าหน้าที่แล้ว 2,635 คน คงเหลือปฏิบัติหน้าที่อยู่ 246 คน โดยประเมินพายุอยู่ห่างจากแท่นบงกชประมาณ 500 กิโลเมตร คาดว่าจะผ่านแท่นในเวลา 04.00 น. ของวันพรุ่งนี้
ส่วนการจัดการด้านไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จัดเตรียมอุปกรณ์หนักสำหรับแก้ไขปัญหาหากระบบผลิตและระบบส่งไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากพายุ เตรียมสำรองจากเชื้อเพลิงอื่นเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งประสานกับประเทศมาเลเซียขอซื้อไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน
ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเตรียมพร้อมในศูนย์ควบคุมการจ่ายไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้ ทั้ง เพชรบุรี นครศรีธรรมราชและสงขลา ด้านบุคลากร อุปกรณ์ ยานพาหนะ ระบบสื่อสาร เครื่องกำเนิดไฟฟาสำรองและน้ำมันเชื้อเพลิงตลอดเวลา พร้อมส่งทีมงานสนับสนุนจากพื้นที่ภาคกลาง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อพยพ จนท.แท่นขุดเจาะกลางอ่าวไทยขึ้นฝั่งหนีพายุปาบึก