วันนี้ (6 ม.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประสบภัยพายุโซนร้อนปาบึกในเขตตัวเมืองปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช เร่งซ่อมแซมหลังคาบ้าน ซึ่งได้รับความเสียหายจากลมพายุ เมื่อ 3 วันก่อน โดยชาวบ้านจะเน้นหาวัสดุของเก่าที่พอจัดหามาได้ซ่อมแซมไปก่อน เนื่องจากวัสดุก่อสร้างซึ่งทางส่วนราชการจะนำมามอบให้นั้นยังไม่เพียงพอ ขณะที่บ้านบางหลังยังไม่สามารถซ่อมแซมได้ในขณะนี้ แม้ผู้ประสบภัยจะพยายามไปหาซื้อตามร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างด้วยตัวเอง แต่กลับพบว่าขาดแคลนมีไม่เพียงพอกับความต้องการ
ทีมข่าวไทยพีบีเอสสำรวจร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างในตัวเมืองปากพนัง พบว่าในขณะนี้ขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะกระเบื้องที่จะใช้ในการมุงหลังคาเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของร้านบอกว่าตั้งแต่เมื่อวานนี้ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันนี้มีชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนเข้ามาขอซื้อกระเบื้องเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยกระจายเป็นวงกว้าง กระเบื้องมุงหลังคาซึ่งสำรองไว้ได้ขายหมดเกลี้ยงไปก่อนหน้านี้แล้ว
เช่นเดียวกับสภาพเรือนของชาวบ้านหมู่ที่ 14 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เกือบ 10 ครอบครัว ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแรงลมพายุและจนถึงขณะนี้ต้องอพยพไปอยู่กับญาติพี่น้องนอกพื้นที่เป็นการชั่วคราว เนื่องจากภาวะลมแรงและฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุ ทำให้ระดับน้ำซึ่งท่วมในหมู่บ้านสูงกว่า 1 เมตร โดยชาวบ้านคาดว่าต้องใช้เวลานานกว่า 1 เดือน ภาวะน้ำท่วมจึงจะคลี่คลาย เพราะหมู่บ้านอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ
ส่วนต้นยางนาซึ่งถูกพายุพัดโค่นล้มทับบ้านเรือนกว่า 20 หลังในหมู่บ้านจังหูน ต.ท่าเรือ จนถึงขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าของบ้านยังไม่ได้ตัดต้นไม้ออกจากบ้านเรือน เพราะต้องรอรถเครนขนาดใหญ่มาเคลื่อนย้ายต้นไม้ ส่วนระบบไฟฟ้าภายในหมู่บ้านยังใช้การไม่ได้ เนื่องจากต้นไม้ได้โค่นล้มทับเสาไฟฟ้าและยังไม่ได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้ แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยพายุใน อ.เมือง และ อ.ปากพนัง แล้ว แต่การแก้ปัญหายังไม่ทั่วถึง เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยกระจายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะกระเบื้องมุงคา ซึ่งยังคาดแคลนเป็นจำนวนมาก