วันนี้ (8 ม.ค.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สวนยางในพื้นที่ ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เนื้อที่กว่า 13 ไร่ ถูกแรงลมพายุโซนร้อนปาบึก พัดจนโค่นล้มได้รับความเสียหาย นางวันจาง คงสม เจ้าของสวนยาง กล่าวว่า แทบจะหมดกำลังใจในการที่จะรื้อฟื้นปลูกสวนใหม่ เนื่องจากสวนยางที่ปลูกมาได้เกือบ 10 ปี เพิ่งตัดเกี่ยวผลผลิตได้เพียง 1 ปีกว่าเท่านั้น
เช่นเดียวกับ สวนผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนและมังคุง ของนายคงวัฒน์ ชาวสวน ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ติดกันเนื้อที่กว่า 4 ไร่ ซึ่งกำลังให้ผลผลิตนอกฤดูกาล ราคาจำหน่ายทั้งมังคุดและทุเรียนเฉลี่ยกว่า 100 บาทต่อกิโลกรัม แต่กลับได้รับความเสียหายอย่างหนักลำต้นโค่นล้มผลผลิตร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก ทำให้รายได้เฝ้ารอมาเกือบทั้งปีต้องหายไป
ด้านเจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทย จ.นครศรีธรรมราช เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของสวนยางเพื่อให้ความช่วยเหลือฟื้นฟู โดยสวนยางพาราซึ่งผลผลิตแล้วที่โค่นล้มเสียหายจนหมดสภาพสามารถขอรับการปลูกแทนใหม่ไร่ละ 16,000 บาท โดยสามารถปลูกทดแทนเป็นยางพาราพันธุ์ดี หรือไม้ยืนต้นชนิดอื่นอีก 30 ชนิด ตามความสมัครใจของเกษตรกร
นายพยุงศักดิ์ อภิรัตนกุล ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึกนอกจากสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินและบ้านเรือนแล้ว ยังทำให้พื้นที่สวนยางใน จ.นครศรีธรรมราชเสียหาย จากการสำรวจเบื้องต้นไปกว่า 160,000 ไร่ ในพื้นที่ 22 อำเภอ จึงขอให้เจ้าของสวนยางเร่งแจ้งความเสียหายไปยังสำนักงานการยางแห่งประเทศไทยใกล้บ้าน เพื่อขอรับการช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป
พื้นที่ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งสวนยางพาราได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพายุโซนร้อนปาบึก มีสวนยางพาราโค่นล้มไปกว่า 3,000 ไร่