วันนี้ (15 ม.ค.2562) กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันนี้คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ "เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ" พบฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบากศ์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ใน 22 พื้นที่ริมถนน ซึ่งมีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน (14 ม.ค.) มากนัก โดยมากสุดที่ริมถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร วัดได้ 90 มคก./ลบ.ม. รองลงมาคือริมถนนกาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน วัดได้ 82 มคก./ลบ.ม
ส่วนพื้นที่ทั่วไป ห่างจากริมถนนสายหลัก พบว่ามีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานและคุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 15 พื้นที่ ซึ่งมีแนวโน้มลดลง โดยมากสุดที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร วัดได้ 82 มคก./ลบ.ม ส่วนพื้นที่ที่มีคุณภาพอากาศปานกลางคือ แขวงบางนา เขตบางนา, แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ และ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษคาดการณ์ว่า คุณภาพอากาศในวันพรุ่งนี้ (16 ม.ค.) จะอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีโอกาสเกิดฝนร้อยละ 10 ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในด้วย
ทั้งนี้ ลักษณะของอากาศ ระดับบนมวลอากาศเย็นกว่าสิ่งแวดล้อมจะกดอากาศที่อุ่นกว่าไว้ ทำให้อากาศไม่สามารถลอยตัวขึ้นไประดับชั้นบรรยากาศระดับบน และลมค่อนข้างสงบ จึงเกิดหมอกขึ้น ส่งผลทำให้สถานการณ์ PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล วันนี้ (15 ม.ค.) มีคุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
แนวทางป้องกัน-แก้ไขฝุ่น PM 2.5
นอกจากนี้ หลายหน่วยงานยังได้ประสานและบูรณาการการดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ดังนี้
1. เพิ่มความถี่กวาดล้างทำความสะอาดถนน และฉีดพ่นน้ำในอากาศ ตั้งแต่เวลา 18.00 - 06.00 น. ทุกวัน จนกว่าฝุ่นละอองจะลดลง
2. แจกหน้ากากอนามัย N95 ในพื้นที่งานอุ่นไอรัก สวนลุมพินี บางคอแหลม จตุจักร บางกะปิ บางขุนเทียน โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย คนชรา เด็กและผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับแหล่งกำเนิด
3. เข้มงวดตรวจจับรถควันดำและบังคับใช้กฎหมายเค่งครัด
4. จัดตั้งคณะกรรมการร่วมในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้า โดยเร่งคืนพื้นผิวการจราจรในจุดที่ดำเนินการเสร็จแล้ว และจะปรับพื้นที่ผิวถนนให้กว้างขึ้นในจุดที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
5. จัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากการก่อสร้างอาคารสูงและระบบสาธารณูปโภค
6. แก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด อำนวยความสะดวกการจราจรและเข้มงวดไม่ให้จอดรถริมถนนสายหลัก
7. เข้มงวดไม่ให้มีการเผาขยะและการเผาในที่โล่ง
8. รณรงค์ไม่ให้ติดเครื่องยนต์ขณะจอดในสถานที่ราชการ โรงพยาบาล โรงเรียน และพื้นที่ที่มีมลพิษสูง
9. ทำฝนเทียม โดยกรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีการตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว จ.ระยอง เตรียมทำฝนเทียมในช่วงวันที่ 15-19 ม.ค.นี้