วันนี้ (27 ม.ค.2562) กองทัพฟิลิปปินส์ เผยแพร่ภาพความเสียหายภายในโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิกแห่งหนึ่ง บนเกาะโจโล ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ หลังจากเกิดเหตุระเบิด 2 ครั้งซ้อนภายในโบสถ์และลานจอดรถ เมื่อเวลาประมาณ 08.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าเวลาในประเทศไทย 1 ชั่วโมง
แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 19 คน และได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 48 คน ซึ่งผู้เคราะห์ร้ายส่วนใหญ่เป็นพลเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงพร้อมอาวุธครบมือได้ปิดการจราจรรอบพื้นที่รอบบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัย
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ ให้คำมั่นว่าจะตามหาผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดมารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม
โดยเกาะโจโล ถือเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นของกลุ่มอาบูไซยาฟ เป็นแนวร่วมของกลุ่มไอเอส และมักก่อเหตุรุนแรงขึ้นเป็นประจำ
ล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 27 คน บาดเจ็บอีก 77 คน โดยเจ้าหน้าหน้า ที่ความมั่นคง ระบุว่า ระเบิดครั้งแรกเกิดขึ้นใกล้กับโบสถ์โจโล ตามด้วยระเบิดครั้งที่ 2 ด้านนอกศูนย์ราชการ ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตมีทั้งประชาชน และทหาร