วันนี้ (2 ก.พ.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.เชียงใหม่ ยังคงเป็นปลายทางของนักท่องเที่ยวจีนที่เลือกเดินทางมาท่องเที่ยว แม้ขณะนี้ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จะเริ่มมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน แต่ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลตรุษจีน
นักท่องเที่ยวชาวจีนคนหนึ่ง ระบุว่า ตั้งใจมาเที่ยวทั้งที่ จ.เชียงใหม่ ภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร เพราะอยากมาเที่ยวประเทศไทย โดยไม่กังวลกับปัญหาฝุ่นละอองเท่าใดนัก เนื่องจากในประเทศจีนก็ประสบปัญหามลพิษเช่นกัน แต่รัฐบาลจีนมีการจัดการปัญหานี้อย่างเด็ดขาด และเชื่อว่ารัฐบาลไทยจะจัดการได้ โดยหลังจากนี้ยืนยันว่าจะกลับมาเที่ยวอีก เพราะประเทศไทยเป็นเมืองที่สวยงามและมีมรดกทางวัฒนธรรมเก่าแก่ โดยเฉพาะ จ.เชียงใหม่
ด้านนายดำรงค์ องอาจ นายกสมาคมธุกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หากเกิดปัญหาหมอกควันเกินค่ามาตรฐาน บริษัททัวร์ต้องแจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบก่อน เพื่อให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจก่อนเดินทางมา เพื่อเป็นการตัดปัญหาตั้งแต่ต้นทาง นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือไปยังบริษัททัวร์ให้เตรียมหน้ากากอนามัยแจกให้กับนักท่องเที่ยวด้วย และที่สำคัญไกด์ต้องสื่อสารกับนักท่องเที่ยวให้เข้าใจถึงปัญหาและผลกระทบที่อาจเกิดกับนักท่องเที่ยว เพื่อให้ทำการป้องกันให้มากที่สุด
ขณะที่ รศ.พานิช อินต๊ะ นักวิชาการวิศวกรรมเครื่องกลการวัดและควบคุมอนุภาคฝุ่นด้วยไฟฟ้าสถิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาเชียงใหม่ ระบุว่า บริบทพื้นที่ภาคเหนือแตกต่างจากกรุงเทพมหานคร การตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก พบว่าส่วนใหญ่เกิดจากการเผาในพื้นที่โล่งและพื้นที่การเกษตร วิธีแก้ปัญหาในระยะยาว ควรแก้ไขด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้นและหากเป็นไปได้ก็ต้องการให้จัดโซนนิ่ง
ข้อมูลจากการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระบุว่าในช่วงวันที่ 1-10 ก.พ.2562 มีสายการบินที่ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 2 สายการบิน ได้แก่ สายการบินจุนเหยา จำนวน 82 เที่ยวบิน และสายการบินไชน่า อีสเทอร์น จำนวน 14 เที่ยวบิน โดยประมาณการว่าจะมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจำนวน 14,400 คน
ขณะที่ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ ระบุว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีนมีนักท่องเที่ยวเดินทางมา จ.เชียงใหม่ ประมาณ 100,000 คน เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาร้อยละ 4 และมีการจองห้องพักแล้วกว่าร้อยละ 80 สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยว จ.เชียงใหม่ ร้อยละ 60 เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนร้อยละ 40 เป็นนักท่องเที่ยวไทย และคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดประมาณ 1,000 ล้านบาท