วันนี้ (2 ก.พ.2562) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ว่าพบเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ บริเวณชายหาดบ่อดาน อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งเป็นพื้นที่นอกเขตอุทยาน เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเบื้องต้น พบร่องรอยการขึ้นวางไข่ของเต่าหญ้า โดยตรวจวัดขนาดความกว้างของหน้าอกได้ 78 เซ็นติเมตร นับจำนวนไข่เต่าได้ 81 ฟองและเป็นไข่สมบูรณ์ทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงย้ายไข่เต่าไปฟักที่ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์หาดท่าไทร พร้อมสร้างคอกกั้นเพื่อป้องกันและดูแลความปลอดภัย หลังประเมินว่าน้ำทะเลท่วมถึงหลุมไข่เต่า
อธิบดี ทช. กล่าวอีกว่า "เต่าหญ้า" เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มีลักษณะกระดองเรียบสีเทาอมเขียว ส่วนหัวค่อนข้างโต จะงอยปากมนกว่าเต่าตนุ จัดเป็นเต่าทะเลที่มีขนาดเล็กที่สุด ตัวเต็มวัยจะมีน้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัมและมีความยาวกระดอง 75-80 เซ็นติเมตร หากินอยู่ชายฝั่งน้ำตื้น แต่สามารถดำน้ำได้ถึง 300 เมตร โดยจะกินกุ้ง หอย ปูและปลา เป็นอาหาร มีถิ่นอาศัยหลักอยู่ในเขตซีกโลกเหนือ
ส่วนประเทศไทยพบมากในฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ เกาะกระ เกาะพระทอง เกาะคอเขา หาดท้ายเหมือง จ.พังงา และหาดไม้ขาว หาดกมลา หาดราไวย์ จ.ภูเก็ต ซึ่งเต่าหญ้าจะวางไข่ทุกๆ 1-3 ปี ฤดูวางไข่ตั้งแต่เดือน ต.ค. - มี.ค. แต่ปัจจุบันพบการขึ้นมาวางไข่ของเต่าหญ้าน้อยมาก จึงเกรงว่าเต่าชนิดนี้น่าจะใกล้สูญพันธุ์แล้ว
อธิบดี ทช.ยังขอความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติทางทะเล ไม่ทิ้งถุงพลาสติกบริเวณชายหาดหรือในทะเล ลดการทำประมงที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการสร้างรีสอร์ตที่ส่งผลกระทบทำลายระบบนิเวศทางทะเล และอยากให้เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นวาระแห่งชาติ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์ทะเลที่หายากเหล่านี้ให้คงอยู่คู่ทะเลไทยต่อไป
ทั้งนี้ เฟซบุ๊กศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติ ทางทะเลที่สอง จังหวัดภูเก็ต โพสต์ให้ข้อมูลว่า จากการตรวจสอบสถิติการขึ้นวางไข่ของเต่าหญ้าในเขตอุทยานฯ ย้อนหลัง พบว่ามีบันทึกเต่าหญ้าขึ้นวางไข่ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2539 แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีสถิติพบการขึ้นวางไข่ของเต่า กระทั่งในปี 2562 พบการกลับมาวางไข่ของเต่าหญ้าอีกครั้งในรอบ 23 ปี
