วานนี้ (24 ก.พ.2562) นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เผยความคืบหน้าการควบรวมระหว่างธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาตว่า ขณะนี้ทั้ง 2 ธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดต่างๆอย่างรอบคอบ เนื่องจากการควบรวมกิจการจะต้องพิจารณาถึงโครงสร้างของทั้ง 2 ธนาคารว่ามีขนาดใกล้เคียงกันหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเกิดขึ้น รวมถึงโครงสร้างทางการเงินที่จะต้องมีความสมดุลตำแหน่งผู้บริหาร รายได้ของพนักงานว่ามีความใกล้เคียงกันหรือไม่
เบื้องต้นวางกรอบให้เจรจาแล้วเสร็จ และลงนามในสัญญาการควบรวมกิจการภายในไตรมาสแรกของปีนี้ หลังจากนั้นจะนำเสนอให้ ครม.พิจารณาอนุมัติภายใน 3-4 เดือน ยืนยันว่า การควบรวมของทั้ง 2 ธนาคารจะสร้างประโยชน์ให้กับระบบธนาคารพาณิชย์แข็งแกร่งขึ้น
ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุว่า ภายหลังการควบรวมกิจการแล้วจะทำให้ขนาดของธนาคารอยู่อันดับที่ 5-6 เท่าเดิม แต่จะมีทุนเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว ซึ่งจะส่งผลดีต่อด้านการแข่งขัน ส่วนกระทรวงการคลังจำเป็นต้องเพิ่มทุนหรือไม่อยู่ที่การพิจารณาถึงผลประโยชน์