ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ยายจำปีอายุ 79 ปี นั่งรถไฟจากนครสวรรค์เข้ากรุงเทพฯ ขายผัก-ผลไม้ไม่มีวันหยุด

สังคม
27 ก.พ. 62
12:06
8,820
Logo Thai PBS
ยายจำปีอายุ 79 ปี นั่งรถไฟจากนครสวรรค์เข้ากรุงเทพฯ ขายผัก-ผลไม้ไม่มีวันหยุด
ยาย 79 ปี นั่งรถไฟจากนครสวรรค์ เข้าเมืองกรุงเทพ ค้าขายไม่มีวันหยุด แบ่งกำไรเข้าวัดทำบุญ

ทุก ๆ วัน บนขบวนรถไฟ 208 นครสวรรค์ มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร จะมีนางจำปี เปรมปรี แม่ค้าวัย 79 ปี ผู้โดยสารขาประจำเจ้าเก่าของรถไฟขบวนนี้เดินทางด้วยรถไฟเข้าเมืองกรุงเทพฯไม่มีวันหยุด

 

ออกเดินทางจากสถานีรถไฟช่องแค  ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

ออกเดินทางจากสถานีรถไฟช่องแค ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

ออกเดินทางจากสถานีรถไฟช่องแค ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์

 

สิ่งที่ยายจำปี นำมาด้วยคือผลไม้-ผักสด คุณภาพดีจากบ้านเกิด ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ วันละไม่ต่ำกว่า 10 ชนิด เช่น มะขามเทศ ละมุด มะละกอ มะยม กล้วยตาก และผักหลายชนิด เช่น สะเดา มะเขือ ผักบุ้ง รวมแล้วต่อวันไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม ทั้งหมดนี้ยายจำปีหอบหิ้วขึ้นรถไฟเดินทางมาไกล ระยะทาง เกือบ 300 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางไป-กลับร่วม 10 ชั่วโมง

 

ยายจำปีออกเดินทางจาก จ.นครสวรรค์ เข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ 05.00 น.เพื่อขายของและกลับถึงบ้านเวลาประมาณ 24.00 น.

ยายจำปีออกเดินทางจาก จ.นครสวรรค์ เข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ 05.00 น.เพื่อขายของและกลับถึงบ้านเวลาประมาณ 24.00 น.

ยายจำปีออกเดินทางจาก จ.นครสวรรค์ เข้ากรุงเทพฯ ตั้งแต่ 05.00 น.เพื่อขายของและกลับถึงบ้านเวลาประมาณ 24.00 น.

 

ยายจำปีเล่าให้ทีมข่าวไทยพีบีเอสฟังว่า ค้าคามาเป็นเวลานาน 30 กว่าปี ออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 05.00 น.ถึงสถานีรถไฟบางซื่อเวลา 10.00 น. และนั่งรถสามล้อ มาซอยอารีย์ ถนนพหลโยธิน จากนั้นจัดร้านพร้อมค้าขายเวลา 11.00 น. โดยยายจำปีจะทำเช่นนี้ทุกวันจนเป็นกิจวัตรและจะหยุดเฉพาะวันพระใหญ่ บวชชี หรือต้องไปพบแพทย์ เท่านั้น และเงินที่หามาได้ เมื่อหักค่าเดินทางวันละ 282 บาท ยายบอกว่า จะแบ่งเงินไปทำบุญ

กำไร 1,000 นิดๆ ต่อวัน ยายเก็บไว้แบ่งทำบุญ ยายไม่อยากอยู่บ้านเฉย ๆไม่สนุกเลย บ้านหลังใหญ่แต่เงียบเหงา ขายของสนุกกว่าเจอลูกค้า ได้พูดคุย

ก่อนหน้านี้ทีมข่าวได้สอบถามไปยังลูกสาวยายจำปี เธอเล่าให้ฟังว่า เคยห้ามให้หยุดขายของ เนื่องจากเป็นห่วงอายุมากและเดินทางไป-กลับคนเดียวทุกวัน กว่าจะถึงบ้านก็เที่ยงคืน แต่ยายจำปีจะโกรธทุกครั้งที่ห้าม



โกรธ ไม่ต้องมาคุยกัน เขาห้ามยายไม่ฟัง ห้ามทียายก็บอก ยายจะไปภูเก็ตไปหาหลาน พอเขาห้ามยายไม่ได้ ลูกก็จะทำหน้าที่ซื้อของให้ในแต่ละวัน แล้วก็มาส่งสถานีรถไฟ และมารับยายตอนกลับเกือบเที่ยงคืนทุกวัน พอตื่นเช้าตี 5 ยายก็ออกมาขายของ

 

ยายจำปี การันตีว่า ผักสดและผลไม้ จาก จ.นครสวรรค์ อร่อย สะอาด สดใหม่ หาที่ไหนไม่ได้ เพราะทุกอย่างปลอดสารพิษ เช่น มะละกอ คือ ผลไม้ที่นำมาขายครั้งใดก็จะสามารถขายหมดภายในไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีละมุด มะขามเทศ รสชาติหวานกรอบไม่เหมือนใคร แต่หากขายที่ จ.นครสวรรค์ ยายบอกขายแทบไม่ได้ เพราะในตลาดของอำเภอก็ขายผลไม้ชนิดเดียวกัน จึงต้องนำมาขายที่กรุงเทพฯ

 

ภาพคุณยายจำปี เปรมปรี เมื่อครั้งยังสาว

ภาพคุณยายจำปี เปรมปรี เมื่อครั้งยังสาว

ภาพคุณยายจำปี เปรมปรี เมื่อครั้งยังสาว

 

ปีนี้ยายจำปีอายุย่างเข้า 80 ปี แต่ยังแข็งแรง พูดเสียงดังฟังชัด ความจำทุกอย่างยังดี สามารถคำนวณราคาสินค้า ทอนเงินได้อย่างแม่นยำ ไม่ต้องใช้เครื่องคิดเลข ยายยังเล่าให้ฟังว่า รักอาชีพค้าขายมากเพราะอิสระไม่มีใครบังคับ ในอดีตยายเคยทำงานรับจ้างในโรงปูนแห่งหนึ่ง แต่ถูกนายจ้างกดขี่บังคับให้ค่าแรงต่ำ จึงตัดสินใจออกจากงาน เข้ามาค้าขายกับแม่ที่กรุงเทพฯ

 

ยายไม่ชอบการบังคับ การกดขี่ ยายชอบที่จะเป็นนายตัวเอง ค้าขายอิสระ อยากขายอะไรก็ขายได้ และก็เป็นเงินหมด แม้จะได้กำไรอย่างละ 5 บาท 10 บาท ก็คือ กำไร เราก็เน้นขายหลายๆอย่าง กำไรก็จะมากเอง



แผงผักผลไม้เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในซอยลึกสุด หรือ ทำเลที่หลายคนมองว่าขายไม่ดี กลับได้ความสนใจจากลูกค้าไม่ต่างจากร้านอื่น ๆ ในละแวกเดียวกัน ลูกค้าหลายคนไม่เพียงจะอุดหนุนซื้อของเท่านั้น แต่หลายคนยังแวะมาพูดคุยให้กำลังใจยาย ทำให้บรรยากาศดูคึกคักตลอดทั้งวัน

 

แผงค้าขายของยายจำปีอยู่ในซอยอารีย์ ผู้คนขวักไขว่ ที่แวะเวียนมาซื้อของและพูดคุยกัยยาย

แผงค้าขายของยายจำปีอยู่ในซอยอารีย์ ผู้คนขวักไขว่ ที่แวะเวียนมาซื้อของและพูดคุยกัยยาย

แผงค้าขายของยายจำปีอยู่ในซอยอารีย์ ผู้คนขวักไขว่ ที่แวะเวียนมาซื้อของและพูดคุยกัยยาย

 

สิ่งที่ทำให้ยายค้าขายได้นาน และมีลูกค้าประจำมานานกว่า 30 ปี ยายจำปี บอกว่า เพราะคำว่า “ซื่อสัตย์” พูดความจริง ไม่โกงราคาสินค้า และไม่ใช่แค่อาชีพค้าขายเท่านั้น แต่คือข้อคิดสำหรับทุกอย่างอาชีพ ...

 

ภาพ : เรื่อง จิราภรณ์ คำภาพันธ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง