วันนี้ (27 ก.พ.2562) เวลา 16.15 น. ศาลปกครองขึ้นนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 258/2562 ระหว่าง บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด (ผู้ฟ้องคดี) กับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กรณีมีคำสั่งระงับการออกอากาศ 15 วัน ตั้งแต่วันที่ 13-27 ก.พ. 2562
ศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่ง กสทช. และให้มีผลนับแต่วันที่ผู้ถูกฟ้อง (กสทช.) มีมติระงับการออกอากาศ โดยศาลเห็นว่าผู้ดำเนินรายการเสนอการวิเคราะห์จากการเรียบเรียงเนื้อหาและมีการวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานของหน่วยงานรัฐ รวมถึงบุคคลสาธารณะ แม้จะมีเพิ่มเติมจากแหล่งข่าว และมีการแสดงความเห็นสนับสนุนบางพรรคการเมือง ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความสับสนต่อสาธารณะ
การดำเนินรายการของวอยซ์ ทีวี ไม่ถึงขนาดส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่น ทำให้เกิดความขัดแย้ง
ทั้ง กสทช.ไม่แสดงให้เห็นว่ามีความเสียหายร้ายแรงอย่างใด ดังนั้น การที่มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาต บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนกรณีที่ กสทช. อ้างว่า วอยซ์ ทีวี ทำผิดซ้ำซากเป็นเหตุให้สั่งระงับการออกอากาศ ศาลเห็นว่าต้องให้โอกาสโต้แย้งคำสั่ง เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าเมื่อผู้ถูกฟ้องคดีเชิญผู้ฟ้องคดีเข้าชี้แจง หนังสือดังกล่าวมิได้มีประเด็นให้ผู้ฟ้องชี้แจงเกี่ยวกับการทำผิดซ้ำแต่อย่างใด ศาลจึงเห็นว่าผู้ถูกฟ้อง (กสทช.) มิได้พิจารณากรณีการทำความผิดซ้ำมาแต่ต้น และไม่เปิดโอกาสให้ผู้ฟ้องชี้แจง จึงไม่อาจกล่าวอ้างการทำผิดซ้ำซากเป็นเหตุให้ระงับการออกอากาศได้
ทั้งนี้ ศาลได้แจ้งแก่คู่กรณีว่ามีระยะเวลาอุทธรณ์ 30 วัน นับจากวันอ่านคำพิพากษา
"วอยซ์ ทีวี" ออกแถลงการณ์ต่อกรณีคำตัดสินศาลปกครอง
บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ออกแถลงการณ์ต่อกรณีคำตัดสินศาลปกครอง โดยระบุว่า สถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ได้รับคำตัดสินของศาลปกครองกลาง และยินดียิ่งต่อบรรยากาศเสรีภาพสื่อรวมถึงอุตสาหกรรมสื่อของประเทศ
สถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวี ยืนยันเสมอมาว่ายินดีทำงานร่วมกับ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อให้เกิดความราบรื่น เพราะการดำเนินกิจการสื่อสารมวลชนในยุคที่ถูกปั่นป่วน (disrupted) โดยเทคโนโลยีสื่อสารและโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งที่ทายผู้ประกอบการอย่างยิ่งอยู่แล้ว
ขณะที่เสรีภาพของสื่อมวลชน ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญและสื่อไม่อาจขาดเสรีภาพ การฟ้องศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนคำสั่ง กสทช.ครั้งนี้ สถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวี มุ่งหวังให้เกิดบรรทัดฐานว่าการทำงานขององค์กรรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลจะมีความเป็นกลางทางการเมือง คำนึงถึงเสรีภาพสื่อและเสรีภาพในการแสดงความเห็น และตระหนักในหน้าที่ว่าจะต้องส่งเสริมให้สื่อมวลชนสามารถประกอบกิจการได้โดยราบรื่น
การเรียกร้องค่าเสียหายไม่ใช่จุดประสงค์ของการฟ้องศาลปกครองครั้งนี้ สื่อมวลชนอาจเป็นธุรกิจที่มูลค่าไม่สูง หากแต่มีคุณค่าต่อสังคมสูงอย่างยิ่ง การเปิดโอกาสให้สื่อได้ทำหน้าที่ และนำเสนอความเห็นอย่างหลากหลายรอบด้านบนพื้นฐานคุณค่าประชาธิปไตย รวมทั้งประคับประคองฝ่าฟันวิกฤตอุตสหกรรมสื่อไปได้ เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดคุณูปการต่อสังคมยิ่งกว่าการปิดกั้น แทรกแซง ซึ่งปลายทางคือการมีข่าวสารเพียงด้านเดียว และประชาชนขาดโอกาสในการรับข้อมูลที่หลากหลายเพื่อการตัดสินใจด้วยตนเอง
สถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวี ยืนยันด้วยว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เราได้ทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ประกาศจุดยืนเสรีประชาธิปไตย โดยมีความรับผิดชอบ เปิดโอกาสให้ตรวจสอบ และปฏิบัติหน้าที่ตามครรลองวิชาชีพ
คดีนี้อาจจะดำเนินต่อไปถึงศาลปกครองสูงสุด หาก กสทช. อุทธรณ์ และสถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวี ขอยืนยันว่าจะต่อสู้คดีในศาลปกครองด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพื่อยืนยันจุดยืนของสื่อที่ต้องมีเสรีภาพในการทำหน้าที่พร้อมไปกับความรับผิดชอบตามหลักวิชาชีพ ให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องคุณค่าของสื่อมวลชนและเสรีภาพในการแสดงความเห็น