วันนี้ (6 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ปริมาณน้ำยังลดลงต่อเนื่อง หลังจากเขื่อนได้ระบายน้ำเพิ่มขึ้น จากเดิมวันละ 5 แสนลูกบาศก์เมตร เป็นวันละ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อเติมน้ำในแหล่งน้ำดิบ สำหรับผลิตประปาชุมชน 61 แห่ง ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และ จ.มหาสารคาม แม้ว่าระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ จะเหลือน้ำใช้การได้เพียง เพียง 98 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่าง
นายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ระบุว่า สถานการณ์น้ำปีนี้ ยังถือว่าดีกว่า ปี 2559 เนื่องจาก ในสถิติปริมาณน้ำไหลเข้าย้อนหลัง เมื่อเดือน ก.พ. ปี 2559 พบว่ามีน้ำไหลเข้าเพียง 6.99 ล้านลูกบาศก์เมตร ขณะที่ปีนี้ มีปริมาณน้ำไหลเข้า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งการระบายน้ำยังอยู่ในแผนการบริหารจัดการน้ำที่กำหนดไว้
การใช้น้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์ยังอยู่ในแผนควบคุมอยู่ และมีน้ำฝนไหลเข้ามาเติม ซึ่งทำให้โอกาสเสี่ยงนำน้ำในอนาคตมาใช้ลดน้อยลง จึงคาดว่าสถานการณ์ในปีนี้จะไม่รุนแรงเท่าปี 2559
สำหรับการระบายน้ำ 1.2 ล้านลูกบาศก์เมตร จะระบายผ่านคลองส่งน้ำใหญ่ฝั่งซ้าย 4.2 แสนล้านลูกบาศก์เมตร เป็นเวลา 45 วัน เพื่อเติมน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำดิบ
ส่วนคลองส่งน้ำใหญ่ฝั่งขวาจะระบายน้ำสัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อผลิตน้ำประปาอำเภอเมืองขอนแก่น และมหาวิทยาลัยขอนแก่น และอีกประมาณ 5 แสนลูกบาศก์เมตร ระบายผ่านลำน้ำพอง เพื่อรักษาระบบนิเวศน์ และอุปโภคบริโภค ใน อ.อุบลรัตน์ น้ำพอง กระนวน เขาสวนกวาง และอำเภอเมืองขอนแก่น
ส่วนการเตรียมรับมือภัยแล้งปีนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือเกษตรกรให้งดปลูกข้าวนาปรัง ขณะที่จังหวัดขอนแก่นได้ประกาศขอความร่วมมือประชาชน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และจังหวัดที่ใช้น้ำต้นทุนจากเขื่อนอุบลรัตน์ ช่วยกันงดทำนาปรัง ลดพื้นที่เลี้ยงปลากระชัง ประหยัดน้ำประหยัดไฟ