วันนี้ ( 8 มี.ค.62) เวลา 10.30 น.นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อดำเนินการไต่สวน สอบสวนเอาผิดคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 6 คน ที่เดินทางไปต่างประเทศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากพบว่า กกต.ไม่มีการนัดประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญต่าง ๆ เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ เพราะ กกต.ทั้ง 6 คนอ้างว่าติดภารกิจเดินทางไปดูงานการใช้สิทธิเลือกตั้งของคนไทยในต่างประเทศ หรือการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรในเวลาไล่เลี่ยกันระหว่างวันที่ 27 ก.พ. - 10 มี.ค.นี้ โดยที่การจัดการเลือกตั้งภายในประเทศซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่ กกต.ต้องเร่งตรวจสอบ และวินิจฉัยคงค้างอีกมากมาย อาทิ กรณีการร้องเรียนเกี่ยวกับการผิดกฎหมายเลือกตั้ง ผิดกฎหมายพรรคการเมืองมากมายในขณะนี้
ทั้งนี้ อำนาจในการจัดการเลือกตั้ง ณ ประเทศต่างเป็นหน้าที่ของสถานทูตในแต่ละประเทศสามารถทำได้ตามที่ กกต.มอบอำนาจ ไม่มีความจำเป็นอย่างใด ๆ ที่ กกต.ต้องไปติดตาม ตรวจสอบ มิฉะนั้น กกต.จะต้องเดินทางไปทั้ง 67 ประเทศทั่วโลกที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ลงทะเบียนไว้ และเหตุใดต้องไปกันเป็นคู่ในประเทศที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เช่น อังกฤษ อเมริกา เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และสิงคโปร์ ส่วนประเทศอื่น ๆ เช่น จีน มาเลเซีย ออสเตรเลีย ฯลฯ ที่มีการลงทะเบียนไว้เป็นจำนวนมาก ที่ไม่ไปเพราะไม่มีความสำคัญหรืออย่างไร และที่สำคัญเหตุใดต้องใช้งบประมาณแผ่นดินจากภาษีของประชาชนมากถึง 12 ล้านบาท จนถูกสังคมไทยวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรุนแรงในขณะนี้
การกระทำของ กกต.ทั้ง 6 คน ดังกล่าวอาจเข้าข่ายฝ่าฝืน ม.21 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 ที่กำหนดให้ต้องทุ่มเทการทำงานให้เต็มเวลา และอาจเข้าข่าย “การทุจริตต่อหน้าที่” ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 และอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนจริยธรรมหลายข้อ อาทิ ข้อ 7 ข้อ 11 และข้อ 17 ของมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ไม่กระทําการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง ฯลฯ
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความมาร้องเรียนต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวน สอบสวนและเผาผิดตามมาตรา 28(1) ประกอบมาตรา 48 มาตรา 76 และมาตรา 87 แห่งพรป.ป.ป.ช.2561 ต่อไป