วันนี้ (1 เม.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ปรากฏตัวต่อสื่อมวลชนครั้งแรก หลังจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ผ่านพ้นไปนาน 1 สัปดาห์ ซึ่งเมื่อเวลา 09.00 น. นายสุวัจน์ พร้อมแกนนำพรรคชาติพัฒนาได้นัดหารือกันอย่างไม่ป็นทางการที่บ้านพักนายสุวัจน์ในกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับทิศทางหลังจากการเลือกตั้ง และวิเคราะห์ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น โดยพรรคชาติพัฒนาชนะการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต จำนวนที่นั่งเดียวเท่านั้นในพื้นที่เขต 2 จ.นครราชสีมา ที่ส่งนายวัชรพล โตมรศักดิ์ เขต 2 ลงสมัคร และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่างไม่เป็นทางการ อย่างน้อยจำนวน 2 คน (ลำดับ 1 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค, ลำดับ 2 นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรค ทายาทเดลินิวส์) ซึ่งทางแกนนำพรรคได้หารือและวิเคราะห์เกี่ยวกับผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ซึ่งนับว่าพรรคชาติพัฒนาพลาดเป้าหมายเก้าอี้ ส.ส.จำนวนมาก จากเดิมที่คาดไว้จะได้จำนวน ส.ส. 7 ที่นั่ง ทั้งระบบบัญชีรายชื่อและแบบสัดส่วน
จากนั้น นายสุวัจน์ ได้แถลงต่อสื่อมวลชน ระบุ ผลการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ทางพรรคได้วิเคราะห์กันว่ามาจากหลายปัจจัยผสมกัน ทั้งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญอย่างที่บอกมาตลอดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นเรื่องที่วิเคราะห์กันยากตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง มีทั้งหลายพรรคการเมืองลงแข่ง, การมีกลุ่มคนหน้าใหม่ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกถึง 8 ล้านคน และกติกา กกต.ที่มีความหลากหลาย ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเขตเลือกตั้ง และทำให้ครั้งนี้ พรรคชาติพัฒนา ได้ ส.ส.เขตเพียงคนเดียว แต่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ยังถือว่าอยู่ในส่วนที่ตั้งเป้าไว้ แต่เมื่อดูภาพรวมแล้ว แม้ว่าจำนวน ส.ส.จะน้อยไปหน่อย แต่ถือว่าพอใจ และต้องขอบคุณประชาชนที่ลงคะแนนให้
ส่วนกรณีที่หลายพรรคการเมือง เรียกร้องให้ตรวจสอบ กกต. และเปิดเผยผลคะแนนภาพรวมการเลือกตั้ง นายสุวัจน์ ระบุว่า พรรคชาติพัฒนาไม่ได้มีปัญหาในประเด็นนี้ และไม่ได้เรียกร้องว่าจะต้องทำอะไร เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในส่วนที่สังคมสงสัย จะต้องเป็นหน้าที่ของ กกต.ในการตอบคำถามและชี้แจงสังคม พรรคชาติพัฒนาอย่างไรก็ได้หมด ไม่มีปัญหาอะไร
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ไม่ได้นัดเจรจากับแกนนำพรรคการเมืองไหน เพื่อจับขั้วฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง รวมถึงการพบกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่มีภาพปรากฏต่อสาธารณะก่อนหน้านี้ เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น คล้ายกับการเจอกันที่โรงแรม หรือร้านอาหารเท่านั้น ไม่ใช่การพบเพื่อเจรจาใดๆ กัน