วันนี้ 17 เม.ย.62 นายแพทย์มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวภายหลังการหารือกรณีการแจกจ่ายน้ำมันกัญชาและการขอรับรองเป็นหมอพื้นบ้านของนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ ว่า ได้มอบอำนาจให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผู้พิจารณาว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การคัดกรองใน 8 ข้อหรือไม่ ประกอบด้วย มีผู้มารับบริการสม่ำเสมอและต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 ปี สืบทอดความรู้จากบรรพบุรุษ หรือท้องถิ่นมีความสามารถบำบัดรักษาโรค ไม่หวงวิชา ถ่ายทอดความรู้ ไม่เรียกร้องค่ารักษามากเกินควร เป็นที่ยอมรับของคนในชุมชนและมีคุณธรรม
เบื้องต้นเห็นว่านายเดชา เข้าข่ายเป็นหมอพื้นบ้าน เนื่องจากใช้สมุนไพรอื่นมารักษาผู้ป่วยนานกว่า 10 ปีแล้ว คาดว่าใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการอบรมด้วยหากรับรองเป็นหมอพื้นบ้านแล้ว
ขณะที่นายเดชา เชื่อว่าจะได้การรับรองเป็นหมอพื้นบ้าน พร้อมกับย้ำว่าผลิตน้ำมันกัญชาใช้เองไม่เกี่ยวกับมูลนิธิฯ เมื่อเห็นว่าได้ผลดี และน่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วย จึงมอบให้วัดแจกจ่าย ทั้งที่ทราบว่าผิดกฎหมาย หลังจากนี้หากจะใช้น้ำมันกัญชาต่อ ต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย โดยร่วมมือกับหน่วยงานวิจัย โครงการวิจัย ซึ่งจะหารือในวันพรุ่งนี้(18 เม.ย.) เพื่อหาทางออกโดยเร็ว เนื่องจากเป็นห่วงผู้ป่วยกว่า 5,000 คน จะขาดยาและคาดว่าสิ้นเดือน เม.ย.นี้ น่าจะแจกได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
อ่านข่าว "เดชา" ยันบริสุทธิ์ใจแจกกัญชารักษาผู้ป่วย
ขณะที่นายธนรัฐ ใกล้กลาง พร้อมด้วย นางเหรียญ ใกล้กลาง ผู้จัดการมูลนิธิข้าวขวัญ เป็นตัวแทนนายเดชา ศิริภัทร เข้ายื่นเอกสาร ขอรับรองเป็นหมอพื้นบ้านกับนายนายสาโรจน์ มะรุมดี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ตามระเบียบกรมการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก
และในวันที่ 19 เม.ย.นี้ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษแพทย์แผนไทย สสจ.สุพรรณบุรี จะเข้าตรวจสอบมูลนิธิและต้องมีชาวชุมชนให้การรับรองอย่างน้อย 10 คน และหนังสือรับรองจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะออกหนังสือรับรองให้นายเดชาได้