วันนี้ (30 เม.ย.62) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวภายหลังเข้าชี้แจงกับ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีการโอนหุ้นสื่อ บริษัทวี-ลัค มีเดีย ว่า บางช่วงเป็นไปอย่างตึงเครียด โดย พ.ต.ท.ปรีชา นาเมืองรักษ์ ประธานไต่สวน จะทำรายงานสรุปความเห็นเสนอไปยัง กกต. เพื่อวินิจฉัย
นายธนาธร กล่าวว่า การแจ้งข้อกล่าวหามีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง โดยการชี้แจงเป็นไปตามเอกสารและหลักฐานที่ได้เตรียมไว้ 26 รายการ
อ่านข่าว : ธนาธร-ปิยบุตร หอบหลักฐาน 26 รายการ ชี้แจง กกต.ปมหุ้นสื่อ
ก่อนจะย้ำว่า กกต. ไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าตัวเองผิดเรื่องอะไร ทั้งที่ได้โอนหุ้นเสร็จสิ้นตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค. และไม่มีใครมีหลักฐานโต้แย้งหักล้างหลักฐานที่ได้แสดงได้
นายธนาธร กล่าวว่า ความอดทนมีขีดจำกัด ตั้งแต่การจัดตั้งพรรคมาแล้ว 1 ปีจนถึงวันนี้ ผู้ที่อยู่ในพรรคมีคดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 16 คดี โดยจะเอาผิดทางกฎหมายกับผู้ที่แจ้งความเท็จ ทั้งนายนายศรีสุวรรณ จรรยา และสื่อมวลชนบางสำนัก ที่อาจเป็นเหตุให้ผู้บริหารประเทศต้องมานั่งชี้แจงแก้ตัว
นายธนาธร ยังอ้างอิงถึงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ที่ออกระเบียบมาเอื้อให้กับกลุ่มนายทุนโทรคมนาคมมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท โดยระบุว่า เสียใจและเสียดายเวลาที่ต้องมาชี้แจงคดีที่ไม่มีข้อเท็จจริง แทนที่จะได้มีเวลาเตรียมตัวในการทำหน้าที่เป็น ส.ส.และเป็นกรรมาธิการ พร้อมระบุว่า ตนมีข้อมูลเกี่ยวกับการถือหุ้นของว่าที่ ส.ส. พรรคการเมืองอื่นอีกกว่า 30 คน
ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า กกต. ตั้งข้อกล่าวหาต่อนายธนาธรเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย เนื่องจากมีมติเมื่อวันที่ 23 เม.ย.62 โดยไม่เปิดให้นายธนาธรและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อกล่าวหามีเพียงเอกสารส่งไปยังบ้านของนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะผู้รับโอนหุ้น วันที่ 22 เม.ย. และในวันเดียวกันยังให้นางสมพรมาชี้เจงต่อ กกต. ในเวลา 10.30 น. ซึ่งในข้อเท็จจริงไม่สามารถเป็นไปได้ และตั้งข้อสังเกตว่า กกต. มีมติแจ้งข้อกล่าวหาด้วยความเร่งรีบจากคำร้องที่ไปคัดลอกข้อมูลจากสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อผู้ที่ถูกกล่าวหา ซึ่งขัดต่อหลักการความเป็นธรรมในการแจ้งข้อกล่าวหา
นายปิยบุตร กล่าวว่า เตรียมเอาผิดต่อ กกต.ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 157 และ พรป.กกต.ที่กำหนดโทษไว้ว่าหาก กกต.ใช้อำนาจหน้าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือ ออกใบส้มต่อนายธนาธร กกต.จะมีโทษทางอาญาและโทษปรับ รวมถึงจำกัดสิทธิการเลือกตั้ง ซึ่งจะเอาผิดหลัง คสช.หมดอำนาจ
ก่อนจะย้ำว่า ช่วงนี้ คสช.ถึงช่วงขาลง พร้อมถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้ง 7 คนว่าจะสามารถรับผิดชอบไหวหรือไม่ ขอให้ กกต. ทำหน้าที่ด้วยความเป็นธรรมซึ่งจะเป็นเกาะคุ้มครอง กกต.เอง