วันนี้ (8 พ.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดอ่านคำพิพากษาคดีที่ นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ น.ส.จิตติโสภา ศิริวรรณ บุตรสาว ตกเป็นจำเลยในความผิดเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเรียกรับเงินจากนักธุรกิจสัญชาติอเมริกัน เพื่อให้ได้สิทธิจัดงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ หรือ บางกอกฟิล์ม เฟสติวัล ปี 2545-2550 มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท
คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกนางจุฑามาศ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 66 ปี แต่นับโทษคงจำคุกสูงสุด 50 ปี และจำคุก น.ส.จิตติโสภา 44 ปี และสั่งริบเงินจำนวน 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐและดอกผล เป็นเงิน 62 ล้านบาทเศษ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน แต่จำเลยยื่นอุทธรณ์
ล่าสุด ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นบางส่วนในประเด็นที่โจทก์ไม่ได้บรรยายฟ้องให้เห็นว่า จำเลยที่ 2 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงินฯ จึงพิพากษาแก้โทษจำคุกจำเลยที่ 2 คงเหลือจำคุก 40 ปี ส่วนโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ให้เป็นไปตามคำพิพากษาชั้นต้น จำคุก 66 ปี แต่นับโทษคงจำคุกสูงสุด 50 ปี
ส่วนประเด็นการริบทรัพย์โดยมิชอบนั้น ศาลเห็นว่าอุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น เนื่องจากคดีนี้โจทก์ไม่ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลริบทรัพย์ อีกทั้งเป็นคดีที่เกิดขึ้นก่อนที่พระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 ที่กำหนดให้ศาลมีอำนาจสั่งริบทรัพย์คดีทุจริตได้ไม่ว่าโจทก์จะร้องขอหรือไม่ จะมีผลบังคับใช้ ดังนั้นจึงให้ยึดถือตามกฎหมายเดิม ยกคำสั่งที่ให้ริบทรัพย์เงินจำนวน 1.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ