วันนี้ (10 มิ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์จะมีการพิจารณาแผนงานโครงการยุทธศาสตร์ของรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว แต่ยังพิจารณาถึงหลักเกณฑ์และคุณสมบัติบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรี
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ย้ำว่า ทุกอย่างจะได้ข้อยุติเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นพรรคจะนำรายชื่อบุคคลที่จะเข้าไปทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรี ส่งให้พรรคพลังประชารัฐในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก่อนส่งให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบคุณสมบัติ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังปฏิเสธข่าวการเปลี่ยนแปลงโควตารัฐมนตรี เพราะขณะนี้ไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ มาที่พรรคประชาธิปัตย์ จึงถือว่าทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงเดิม
ตั้งแต่วันที่มีการตกลงและเป็นที่ยุติ จนมาถึงวันนี้ ยังไม่มีสัญญาณอะไรจากแกนนำตั้งรัฐบาลที่จะบอกว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง
ด้านนายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ อ้างอิงถึงหลักเกณฑ์และคุณสมบัติ ในการกำหนดตัวบุคคลเพื่อมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือตำแหน่งทางการเมือง ตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 97-98 และ 99 ที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐาน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและเป็นธรรม สำหรับกำหนดหลักเกณฑ์ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้โควตา 8 ตำแหน่ง 7 คน โดย 5 ตำแหน่งจะกำหนดให้รองหัวหน้ารายภาคทั้ง 5 ภาค โดยพิจารณาตามจำนวน ส.ส.ที่ได้
ทั้งนี้ ภาคใต้จะได้โควตา 3 ตำแหน่ง, ภาคกลางได้ 1 ตำแหน่ง และภาคเหนือ รวมกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ 1 ตำแหน่ง ส่วนอีก 2 ตำแหน่งที่เหลือเป็นโควตาของหัวหน้าและเลขาธิการพรรค