วันนี้ (17 มิ.ย.2562) เฟซบุ๊กส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผยแพร่ภาพลูกช้างป่าพลัดหลง หลังเจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายไปดูแลรักษาต่อที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เพื่อรอให้ร่างกายแข็งก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กำหนดแนวทางปฏิบัติการดูแลฟื้นฟูสภาพร่างกายของลูกช้างป่าตัวดังกล่าว โดยระบุว่า
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ลูกช้างป่าพลัดหลง "หนูแดง" ยอมรับอาหารธรรมชาติจากพี่เลี้ยง โดยเลือกอาหารจากธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่วันละ 3-5 ชนิด และเสริมด้วยหญ้าเนเปียร์ เพื่อเพิ่มน้ำตาลและโปรตีน โดยทีมสัตวแพทย์เริ่มให้อาหารเสริม เพื่อเร่งฟื้นฟูสภาพร่างกายและดูแลสุขภาพอย่างใกล้ชิด
ในวันเดียวกัน หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมด้วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ ทีมสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมกำหนดแนวทางการปฏิบัติเพื่อฟื้นฟูสุขภาพลูกช้างป่า ก่อนนำกลับสู่ธรรมชาติ ซึ่งลูกช้างป่าจะต้องอยู่ในกรงเคลื่อนย้ายจนถึงเมื่อลูกช้างป่ายอมรับการให้อาหารเสริมโดยไม่ต้องบังคับแล้ว หลังจากนั้นจึงจะปล่อยสู่พื้นที่ดูแลที่กว้างขึ้น ทั้งนี้ หากประเมินสภาพร่างกายลูกช้างป่าแล้วพบว่าสมบูรณ์แข็งแรงเต็มที่ จึงจะสามารถปล่อยสู่ธรรมชาติได้
สำหรับข้อปฏิบัติในการดูแล ทีมสัตวแพทย์จะเข้าถึงลูกช้างป่าก็ต่อเมื่อจะเข้าไปทำการให้ยา ให้สารน้ำ หรือน้ำเกลือ การเจาะเลือดและทำแผลเท่านั้น และในสภาวะปกติ การให้น้ำ ให้อาหาร รวมถึงการทำความสะอาดพื้นที่ จะพี่เลี้ยง 2 คนที่จะสามารถเข้าถึงตัวลูกช้างป่าได้ นอกจากนี้ทีมสัตวแพทย์จะต้องตรวจสอบอาหารทุกชนิดก่อนนำไปให้ลูกช้างป่ากิน ส่วนผู้มาตรวจหรือเยี่ยมให้อยู่เฉพาะนอกตัวอาคาร ห้ามส่งเสียงดังรบกวนสัตว์และการถ่ายรูป ห้ามใช้แสงแฟลชเด็ดขาด
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าดูแลและติดตามลูกช้างป่าหนูแดง อายุประมาณ 1 ปี บริเวณพื้นที่บ้านอ่างเตย ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งพลัดหลงมาตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรอให้โขลงช้างป่าเข้ามารับ แต่โขลงช้างป่าไม่รับเข้าโขลง จึงต้องกำหนดแผนการดูแลเพื่อความปลอดภัยของลูกช้าง และเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์ได้เคลื่อนย้ายลูกช้างป่าหนูแดง เพื่อนำมาดูแลต่อที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เพื่อฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ ก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ