วันนี้ (19 มิ.ย.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) มีมติอนุมัติให้ "บริษัท คิง เพาเวอร์" เป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ รวมถึงยังได้รับสิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า คณะกรรมการ ทอท.มีมติอนุมัติผลการคัดเลือกผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีกำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2574 โดยบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิ พร้อมเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี ปีแรกเป็นเงินจำนวน 15,419,000,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) จึงเป็นการเสนอค่าตอบแทนสูงกว่าที่ ทอท.เคยได้รับอยู่เดิม
ส่วนการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต, ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่นั้น บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ได้เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี ปีแรกเป็นเงินจำนวน 2,331,000,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีกำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2574
นอกจากนี้ บริษัท คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ จำกัด ยังเป็นผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ภายในอาคารผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี ปีแรกเป็นเงินจำนวน 5,798,000,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งมีกำหนดอายุสัญญา 10 ปี 6 เดือน ระหว่างวันที่ 28 ก.ย.2563 ถึงวันที่ 31 มี.ค.2574 โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ได้รับสัมปทานจะต้องควบคุมราคาอาหารและเครื่องดื่มของผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ให้สูงกว่าท้องตลาดเกินกว่าร้อยละ 20 รวมถึงไม่ให้ผู้รับสัมปทานผลักภาระให้ผู้ประกอบการรายย่อยเกินระดับที่ ทอท.ควบคุม เพื่อเป็นการป้องกันการเอาเปรียบ
อย่างไรก็ตาม ทอท.จะปรับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปีให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อที่อ้างอิงจากกระทรวงพาณิชย์ และการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศ ของทุกๆ ปี ตลอดอายุสัญญา