วันนี้ (25 มิ.ย.2562) นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้กล่าวหาผู้ต้องหารวม 7 คน คือ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธ์, นพ.เหวง โตจิราการ, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายอดิศร เพียงเกษ, นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ และนายจักรภพ เพ็ญแข ในข้อหาร่วมกันโฆษณาหรือประกาศให้ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งให้เลิกการมั่วสุ่ม ร่วมกันโฆษณาหรือประกาศให้กระทำปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจา หรือวิธีอื่นใดเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนกระด้างกระเดื่องให้ประชาชน
- วันที่ 1 ส.ค.2560 หรือหลังจากเกิดเหตุประมาณ 8 ปี พนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการจังหวัดพัทยา จากนั้นอัยการสั่งสอบสวนเพิ่มเติมและมีผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม
- วันที่ 8 ก.พ.2562 อัยการจังหวัดพัทยามีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด และทำหนังสือให้ผู้กำกับการ สภ.พัทยา และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ติดตามจับนายจักรภพ ที่หลบหนีออกนอกประเทศ กลับมาให้ทันสั่งฟ้องคดีภายในวันที่ 11 เม.ย.2562
- วันที่ 25 ก.พ.2562 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดนัดหมาย ผู้ต้องหาทุกคนขอเลื่อนส่งฟ้องคดีไปเป็นวันที่ 19 มี.ค.2562 และขอเลื่อนส่งฟ้องคดีอีกครั้งไปเป็นวันที่ 28 มี.ค.2562
- วันที่ 28 มี.ค.2562 ผู้ต้องหามาพบพนักงานอัยการ 4 คน คือ นายณัฐวุฒิ, นายจตุพร, นพ.เหวง และนายวีระกานต์ ส่วนนายอดิศร และนายสุภรณ์ ขอเลื่อนอีกครั้ง อ้างว่าติดภารกิจปราศรัยหาเสียง
- ก่อนวันที่ 2 เม.ย.2562 นายสุภรณ์ ส่งทนายมาขอเลื่อนส่งฟ้องคดี อ้างว่าป่วยด้วยอาการหายใจไม่ออก และรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่อัยการไม่อนุญาตให้เลื่อนฯ
- วันที่ 3 เม.ย.2562 อัยการจังหวัดพัทยาทำหนังสือถึง ผกก.สภ.พัทยา และผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ให้ติดตามตัวมาส่งอัยการฟ้องต่อศาล และขอให้ดำเนินการขอศาลอนุมัติหมายจับภายในวันที่ 5 เมษายน
- วันที่ 4 เม.ย.2562 ผกก.สภ.พัทยา ส่งหนังสือถึงอัยการว่าศาลออกหมายจับนายสุภรณ์แล้ว อัยการจึงทำหนังสือส่งถึงตำรวจอีกครั้งว่าให้ดำเนินการจับผู้ต้องหา เนื่องจากคดีจะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย.2562
- ตำรวจไม่สามารถจับตัวนายสุภรณ์มาส่งให้อัยการได้ภายในวันที่ 11 เม.ย.2562 ทำให้คดีขาดอายุความ
ประยุทธ เพชรคุณ
ประยุทธ เพชรคุณ
นายประยุทธ ยืนยันว่า คดีดังกล่าวอัยการไม่ได้เลือกปฏิบัติกับบุคลลใด แม้ว่านายสุภรณ์จะลงสมัครเป็น ส.ส. ซึ่งอัยการได้รับสำนวนหลังจากเกิดเหตุเกือบ 8 ปี ทำให้มีเวลาพิจารณาสำนวนคดี ประมาณ 1 ปีครึ่ง แต่ได้เร่งรัดกับตำรวจมาโดยตลอด
ส่วนกรณีที่นายสุภรณ์ไม่เข้าพบพนักงานอัยการ อ้างว่าติดภารกิจปราศรัยนั้น อัยการให้เวลาอีกเพียง 4 วันในการเข้าพบ ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นลงกว่าเดิม จนกระทั่งมาขอเลื่อนอีกครั้ง เนื่องจากอ้างว่าป่วย แต่พฤติกรรมดังกล่าวทางอัยการไม่เชื่อถือ จึงทำหนังสือร้องขอไปยังตำรวจให้ดำเนินการออกหมายจับ เพื่อให้นำตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาส่งฟ้องคดีให้ทัน แต่ตำรวจไม่สามารถจับตัวผู้ต้องหาได้และอัยการไม่มีอำนาจไปจับตัวผู้ต้องหา