วันนี้ (19 ก.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นธรรมเนียมทุกครั้ง หลังมีรัฐบาลใหม่ กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่าขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ จะนำปัญหาที่ยังคงค้างจากรัฐบาลเก่ามาบอกกล่าวแก่รัฐบาลใหม่ด้วยตัวเอง และแม้ว่าตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา จะมีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของพีมูฟ แต่พวกเขาสะท้อนว่าการแก้ไขปัญหาผ่านคณะกรรมการที่เป็นรูปธรรมยังเกิดขึ้นได้ยาก
ความตั้งใจของการรวมตัวของพีมูฟวันนี้ คือต้องการนำนโยบาย 9 ด้าน มายื่นถึงรัฐบาล เพื่อหวังให้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของรัฐบาลที่จะมีการแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ แต่ดูเหมือนว่านโยบายของภาคประชาชนมาช้าเกินไป เพราะว่านโยบายของรัฐบาลนั้นมีการเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไปแล้ว แต่วันนี้ก็ยังหวังสะท้อนให้เห็นว่าปัญหาของพวกเขา ยังคงรอการแก้ไขและรัฐบาลจะเห็นเป็นภารกิจที่ต้องสานต่อ
ทั้งนี้ พีมูฟยื่นหนังสือถึงรัฐบาลให้แก้ไขปัญหา 9 ด้าน ซึ่งเป็นปัญหาเก่าที่เรียกร้องมาอย่างยาวนานหลายรัฐบาล บางเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ซึ่งแต่งตั้งจากรัฐบาลที่แล้ว แต่ยังคงคืบหน้าน้อยมาก และในโอกาสที่มีรัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีคนเดิม จึงเรียกร้องให้สานต่อการแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำ กระจายอำนาจในการจัดการทรัพยากรด้วยชุมชน และให้ตั้งคณะกรรมการสานต่อปัญหานี้
คณะกรรมการพีมูฟ บอกว่า ไม่เพียงแค่ปัญหาเก่าที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่นโยบายทวงคืนผืนป่า ได้ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำและความทุกข์ยากของชาวบ้านให้เพิ่มขึ้น พวกเขาถูกจับดำเนินคดี ตัดสินจำคุก ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ แม้ว่าคำสั่ง คสช. 64/2557 และ 66/2557 จะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ด้านคดีความยังคงมีผลสืบเนื่อง จึงเป็นหนึ่งใน 9 เรื่อง ที่อยากให้เร่งช่วยเหลือ
สำหรับนโยบาย 9 ด้าน โดยภาคประชาชนที่นำมายื่นครั้งนี้ ได้แก่ ยกเลิกคำสั่ง คสช.และทบทวนกฎหมายทุกฉบับที่กระทบสิทธิเสรีภาพประชาชน กระจายอำนาจการจัดการทรัพยากรสู่ชุมชนท้องถิ่น ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมให้คนจนเข้าถึงได้ กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม คุ้มครองพื้นที่เกษตรกรรม และยกระดับโฉนดชุมชนเป็นการรับรองสิทธิชุมชน
ขณะเดียวกัน เรียกร้องให้ยุติการทวงคืนผืนป่า ผลักดัน ครม.ฟื้นฟูวิถีชาวเลและกะเหรี่ยงให้เป็น พ.ร.บ. ส่งเสริมการจัดการภัยพิบัติโดยชุมชนเป็นแกนหลัก ส่งเสริมคุ้มครองชาติพันธุ์และสิทธิความเป็นมนุษย์ เร่งแก้ปัญหาสิทธิสถานะคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ กลุ่มชาติพันธุ์ และส่งเสริมรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน