ชาวเมืองเบอร์มิงแฮมของอังกฤษชุมนุมไว้อาลัยเหยื่อจลาจล
แม้ว่าการจลาจลของเด็ก ๆ และเยาวชนในอังกฤษจะสงบลงแล้ว แต่ทว่ารัฐบาลในฐานะฝ่ายนโยบาย และ ตำรวจในฐานะฝ่ายปฏิบัติกลับหันมากล่าวหากันว่า อีกฝ่ายเป็นต้นเหตุ
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน ชี้ว่า มาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาลทำให้งบประมาณตำรวจถูกตัดไปจำนวนมาก ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ภายในอีก 4 ปีข้างหน้ากรุงลอนดอนจะเหลือกำลังตำรวจไม่ถึง 16,000 นาย ขณะที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ยืนยันว่า การตัดลดค่าใช้จ่ายภาครัฐของรัฐบาลนั้นจะไม่กระทบต่อจำนวนตำรวจในระดับปฏิบัติการพิทักษ์สันติราษฎร์
โดยการจลาจลของเหล่าเยาวชน ในกรุงลอนดอนและเมืองใกล้เคียง 4 วัน 4 คืนที่ผ่านมานั้น ชาวอังกฤษส่วนใหญ่ เห็นว่า ตำรวจไม่สามารถเป็นที่พึ่ง โดยขณะที่การก่อเหตุกำลังลุกลามใหญ่โตไปทั่ว แต่กลับแทบไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจลงมาปฏิบัติหน้าที่
ขณะเดียวกันเวลานี้นายกรัฐมนตรีคาเมรอน เชิญตัวอดีตหัวหน้าตำรวจสหรัฐฯจากมหานครนิวยอร์กเข้ามาเป็นที่ปรึกษาในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งตำรวจอังกฤษเห็นว่าไม่เหมาะ เพราะนายคาเมรอน ควรจะรับฟังคำแนะนำของตำรวจภายในชาติเสียก่อน และ การนำเข้าความคิดจากสหรัฐฯ เช่นนี้เหมือนกับการดูถูกเหยียดหยามความสามารถของตำรวจอังกฤษ
ด้านชาวเมืองเบอร์มิงแฮมได้จัดชุมนุมสันติภาพเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตภายในเมือง 3 คน ซึ่งเป็นผลจากการจลาจลของเยาวชน ที่ผ่านมา