ด้วยเหตุที่หมู่บ้านสามช่องเหนือ มักมีฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งวัน นายสุรัตน์ สุมาลี ผู้ใหญ่บ้าน บ้านสามช่องเหนือ ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เล่าว่า สโลแกนพิเศษของที่นี่คือ "ฝนแปด แดดไม่มี" ทำให้บรรยากาศตลอดการเยี่มมชมหมู่บ้าน ชุ่มฉ่ำ ตลอดทั้งวัน
หมู่บ้านสามช่องเหนือแบ่งออกเป็น 2 แผ่นดิน คือส่วนหนึ่งตั้งอยู่บนฝั่ง อีกส่วนอยู่บนเกาะ มีเนื้อที่ 4,800 ไร่ ประชากรที่นี่มีประมาณ 50 หลังคาเรือน เริ่มทำการท่องเที่ยวเชิงนิเวศมาตั้งแต่ปี 2546 ซึ่ง 1 ปีให้หลังเมื่อปี 2547 เมื่อต้องเผชิญกับสึนามิทุกอย่างที่สร้างขึ้นมาได้หายไปกับตา
แต่ผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ชาวบ้านที่นี่ไม่ยอมแพ้เมื่อมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือหลังประสบภัยจึงใช้วิกฤตเป็นโอกาสสร้างเครือข่ายดำเนินงานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ พร้อมกับปลูกฝังลูกบ้านให้เห็นคุณค่าความยั่งยืนของทรัพยากรมากกว่าเม็ดเงินที่จะได้จากการท่องเที่ยวเชิงเศรษฐกิจ ความเข้มแข็งของลูกบ้าน ทำให้ชุมชนงดงามและยังมีรางวัลการันตีหลายรางวัลด้วยกันทั้งชุมชนต้นแบบเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอันดามันปี 2560 และมีรางวัลชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีระดับจังหวัด ซึ่งเป็น 1 เดียวของ จ.พังงา อีกด้วย
รองผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้บรรยายให้ความรู้พร้อมนำชมสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะ ตลอด 2 ข้างทางเดินภายในหมู่บ้านมีงานศิลปะฝาผนังเป็นระยะ เพื่อเพิ่มทัศนียภาพระหว่างทางเดินเมื่อเดินไปเรื่อย ๆ จะพบกับบ้านจำลองหลังหนึ่ง ชื่อ "บ้านทับเหนือ" ความหมายคือ ที่พักชั่วคราวของชาวประมงในอดีต กระทั่งมีการพักอาศัยกันมากขึ้น จนกลายเป็นหมู่บ้านที่นี่มีประวัติศาสตร์ของชาวเลยาวนานกว่า 100 ปี มาแล้ว
ทำไมต้องมา บ้านสามช่องเหนือ
ปัจจุบัน การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เกิดขึ้นหลายแห่ง แต่ที่นี่พิเศษ และมีสเน่ห์เฉพาะตัว คนในชุมชน มีส่วนร่วม ในการบริหาร จัดการ ทรัพยากร การนำเที่ยวเชิงอนุรักษณ์ ไปจนถึงการสร้างรายได้ จากทรัพยากรในชุมชนที่หาได้ตามฤดูกาล ที่น่าสนใจไม่แพ้อาหารทะเล คือ "น้ำผึ้งป่าโกงกาง" จะมีสีดำเข้ม รสชาติหวานอมเค็มเล็กน้อยใน 1 ปี จะมีให้เก็บได้ 1 ครั้งเท่านั้น สีและรสชาติเฉพาะตัวเกิดจากผึ้งที่ทำรังบนต้นโกงกางนั่นเอง
นอกจากนี้ยังมี "ปูนิ่ม" ที่ชาวบ้านอนุบาลไว้จำหน่าย และทำอาหารขึ้นโต๊ะเพื่อเป็นเมนูสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วย และยังมี "หอยหลักควาย" ที่จัดว่าเป็นเมนูเด็ดของที่นี่ ราคาถูก รสชาติดี มีการเพาะเลี้ยงในฟาร์มธรรมชาติหลังหมู่บ้าน ที่นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชม และสั่งซื้อได้อย่างสะดวก ยังมีแหล่งอนุรักษ์ปูแสม ให้เยี่ยมชมด้วยการนั่งเรือแคนนู หรือ คายัก ล่องไปตามช่องป่าโกงกาง ค่าบริการ คน ละ 100 บาท หากมาเป็นกลุ่มใหญ่ก็มีราคาเหมาให้ รายได้เข้าสู่กองทุนหมู่บ้านนำไปสู่การบริหารงานชุมชนต่อ
ชมต้นไม้ มหัศจรรย์คู่รัก กลางอ่าวพังงา
แม้จะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่สถานที่ท่องเที่ยวมีหลายแห่งเรียกว่า มาวันเดียวคงไม่พอ แนะนำให้นอนต่อเพื่อท่องเที่ยวให้ทั่วถึง เพราะภายในหมู่บ้านมีโฮม สเตย์ รองรับนักท่องเที่ยวด้วย หลังเที่ยวชมความงามของระบบนิเวศครบถ้วน มาที่วิวทิวทัศน์กลางอ่าวพังงา กันบ้าง ที่นี่มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ คือ "เขาตะปู" การเข้าเยี่ยมชม คนไทย ต้องเสียค่าธรรมเนียมเข้าเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา คนละ 60 บาท ส่วนต่างชาติคนละ 300 บาท
การเดินทางไปที่เขาตะปูหากเดินทางไปจากหมู่บ้านสามช่องเหนือ ระหว่างทางจะได้เจอกับต้นไม้คู่หนึ่ง ที่ตระหง่านอยู่คู่กันกลางอ่าวพังงา จนถูกเรียกขานว่า “ต้นไม้ มหัศจรรย์ คู่รัก” ต้นไม้คู่นี้จะจมอยู่ใต้ทะเลวันละ 6 - 8 ชั่วโมง และจะพ้นน้ำให้คนที่ผ่านมาไปมาได้พบเห็นวันละ 6 - 8 ชั่วโมงเช่นกัน ตามเวลาน้ำขึ้น - น้ำลง ซึ่งเป็นอยู่แบบนี้มานานหลายสิบปีแล้ว ส่วนการเดินทางไปนักท่องเที่ยวสามารถจ้างเรือนำเที่ยวที่ให้บริการโดยคนในหมู่บ้านซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ในหมู่บ้าน ทำหน้าที่แนะนำข้อมูลให้ทั้งหมด เรียกว่า เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีการบริหาร จัดการชุมชนได้ดีเยี่ยม และยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ต้องการพบเห็นวิถีชุมชนชาวเลอย่างใกล้ชิดได้พักผ่อน หย่อนใจ ในความสงบ อย่างแท้จริง