วันนี้ (5 ส.ค.62 ) เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์สืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนควบคุมตัวคนขับแท็กซี่ ที่รับผู้ต้องสงสัยวางระเบิดมาสอบปากคำ
ตำรวจเปิดเผยว่า คนขับแท็กซี่คนนี้นับเป็นพยานบุคคลสำคัญ ที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยได้ ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำอย่างละเอียด ในประเด็นแวดล้อมต่างๆ ทั้งจุดรับและจุดส่ง ขึ้นลงรถแท็กซี่ รวมถึงข้อมูล พฤติกรรมทั้งหมด ในระหว่างนั่งโดยสารบนรถแท็กซี่ เพื่อวิเคราะห์หาความเชื่อมโยงกับสถานที่เกิดเหตุ ในจุดอื่นๆ รวมถึงวิเคราะห์ตัวบุคคลต้องสงสัยด้วย
เบื้องต้นคนขับแท็กซี่ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า ผู้ต้องสงสัย ขึ้นแท็กซี่ในช่วงเย็นวันที่ 1 ส.ค. โบกเรียกรถที่ถ.ราชปรารภ แจ้งให้ไปส่งที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ซึ่งในระหว่างนั่งอยู่บนรถ ชายต้องสงสัยได้เปลี่ยนเสื้อจากเดิมสวมเสื้อเชิ้ต ได้เปลี่ยนใส่เสื้อยืดคอกลมสีแดง แต่ยังสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ตำรวจคาดว่า หลังซุกซ่อนระเบิดในจุดเป้าหมายแล้ว ได้เรียกแท็กซี่ไปส่งที่สถานีขนส่งเพื่อเดินทางออกจากกรุงเทพมหานคร
ขณะที่พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปิดเผย ผลการประชุมติดตามคดีระเบิด หลังรับฟังรายงาน จากคณะทำงาน ว่า การสืบสวนคืบหน้าทุกวัน ขณะนี้ที่มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะออกหมายจับ ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะแล้ว ซึ่งตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง เจ้าของพื้นที่ อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายจับมือผู้ก่อเหตุ 2 คน
หลักฐานสำคัญคือภาพจากกล้องวงจรปิด ลำดับตามการเกิดเหตุระเบิด ที่หน้าทางเข้าอาคารบี เมื่อเวลา 6 นาฬิกา เศษ เป็นชาย อายุ 20 ถึง 30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขายาวสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบสีดำ สวมหน้ากากอนามัย ใส่หมวกแก๊ปสีขาว สะพายกระเป๋าสีดำคาดที่ลำตัว และกระเป๋าสีเขียวคล้องไว้ที่ไหล่ซ้าย ส่วนจุดวางระเบิด 2 จุด ที่หน้าสระบัวใกล้หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย เป็นชาย อายุประมาณ 20-30 ปี เช่น กัน สวมหน้ากากอนามัย เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงสีเทาดำ รองเท้าผ้าใบสีดำ สะพายกระเป๋าสีดำที่หลัง
ขณะที่การสืบสวนเหตุเพลิงไหม้ ทั้ง 3 แห่งที่ประตูน้ำ พบว่าเชื่อมโยงกับเหตุระเบิด ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร แต่ยังอยู่ระหว่างพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน อย่างไร ส่วนที่รถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี พื้นที่สน.ยานนาวา ชุดสืบสวนมีภาพผู้ต้องสงสัยแล้ว
ข้อมูลการสืบสวนทุกจุดเหล่านี้ คณะทำงานจะนำพยานหลักฐานในแต่ละแห่ง มาวิเคราะห์ พิสูจน์ความเชื่อมโยงของแต่ละแห่งว่า เกี่ยวข้องกันมากน้อยแค่ไหน เพื่อวิเคราะห์ตัวบุคคลที่ก่อเหตุ ก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาลต่อไป