เปิดใจคนไทย เผชิญวิกฤตประท้วงฮ่องกง

สถานการณ์การประท้วงในฮ่องกงทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง ได้ออกประกาศสถานการณ์พิเศษ เนื่องจากพนักงานหลายสายการบินได้ทำการประท้วงหยุดงานพร้อมกัน จึงทำให้สายการบินบางสายไม่สามารถให้บริการบางไฟลท์ได้ โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง

น.ส.พัชรินทร์  นามโยธี นักท่องเที่ยวชาวไทย เล่าว่า ได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ฮ่องกงตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดทั้งวันที่ได้เดินเที่ยวในเมืองนั้นไม่มีการประท้วงจนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. เริ่มมีการตั้งขบวนโดยกลุ่มคนใส่เสื้อสีดำพร้อมสวมหน้ากากอนามัยส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น และเดินแถวเพื่อประท้วงบนถนน ขณะที่บรรดาร้านค้าต่างเริ่มปิดร้านในทันที แม้จะโชคดีที่บริเวณนั้นไม่มีการปะทะกันระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุม แต่ก็รู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ดี

นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ยืนถ่ายภาพขบวนที่เดินไปตามถนนช้าๆ แบบไม่รีบร้อน แต่เราตกใจที่ต้องมาเจอกลุ่มประท้วง เลยรีบหารถไฟใต้ดินกลับที่พัก ซึ่งโชคดีที่วิ่งไปขึ้นทันขบวนสุดท้ายก่อนที่รถไฟใต้ดินจะไม่สามารถให้บริการได้

น.ส.พัชรินทร์ ระบุว่า หลังกลับมาบริเวณที่พัก พบว่า ไม่มีการชุมนุมประท้วง แต่พ่อค้า แม่ค้าต่างรีบปิดร้านตั้งแต่ช่วง เวลา 18.00 - 19.00 น. ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคน รวมถึงตัวเองต้องพึ่งพาอาหารจากร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชั่วโมงแทน ซึ่งมีอาหารเหลือน้อยมาก โดยหลังจากนั้น ในเช้าวันที่ 5 ส.ค.ได้ติดตามข่าว พบว่า การประท้วงเริ่มมีความรุนแรงขึ้น จึงต้องวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวใหม่ทั้งหมด

เปิดทีวีก็มีแต่ข่าวประท้วง แต่ส่วนใหญ่เราจะติดตามผ่านแอปพลิเคชัน MTR ที่เป็นแอปรถไฟใต้ดิน เพื่อจะเช็กดูว่าแต่ละสถานีให้บริการได้หรือเปล่า ซึ่งก็ถือว่าสะดวกในการวางแผนเดินทาง 

กระทั่งวันกลับ หลังจากเดินทางไปถึงสนามบินมีเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ให้รอเช็กอินในบริเวณที่กำหนดซึ่งมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากต้องรอนานหลายชั่วโมง ทำให้มีนักท่องเที่ยวบางคนออกมาจากบริเวณที่กั้นพื้นที่ไว้ เพื่อไปรับประทานอาหารรอเวลาจนทำให้ตกเครื่อง ขณะที่ผู้โดยสารบางคนนั้น ไม่สามารถเดินทางกลับได้ เนื่องจากสายการบินมีการยกเลิกเที่ยวบิน

ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ได้ระบุว่า ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงแนะนำผู้โดยสารทุกท่านที่มีเที่ยวบินตรวจสอบสถานะเที่ยวบินกับสายการบินให้แน่ชัดก่อนที่จะเดินทางมายังสนามบิน ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบความคืบหน้าของสถานการณ์ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกงได้ที่ https://www.hongkongairport.com/

วัยรุ่นรวมตัวชุมนุมในฮ่องกง หวังทำเพื่ออนาคตตัวเอง

ขณะที่ น.ส.สรินยา ลอยประสิทธิ์ เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจอาวุโส สวทช. ได้เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Sarinyal Loyprasit  ระบุว่า โทรหาอาม๊าเห็นข่าวชุมนุมที่ฮ่องกง กระจายไปทั่วพื้นที่ฝั่งเกาลูน อาทิ ไทโป (Tai Po)ซาถิ่น (Sha Tin)จึ่นวาน (Tsuen Wan) ถึ่นหมุน (TuenMun) มงกก (Mong Kok) อาม๊าอยู่ย่านซาถิ่น ตรงไต่ไหว่หน้าวัดแชกงหมิวที่คนไทยนิยมไปสักการะ เรียกว่า วัดกังหันลม ...

...อาม๊า เล่าว่า ไม่ต้องเป็นห่วง แม่ยังซื้อข้าวของมีของกิน กลุ่มผู้ชุมนุมไม่รุนแรง ขนาดมีตาแป๊ะโวยวายว่าเดือดร้อนขึ้นรถไฟไม่ได้ กลุ่มผู้ชุมนุมรุ่นใหม่ยังควักเงินให้ 100 เหรียญ ให้ไปขึ้นแท็กซี่ อาม๊าบ่นแต่ว่าขาดแต่หนังสือพิมพ์ไทยออกไปซื้อไม่ได้ 

ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์เพิ่มเติม น.ส.สรินยา ระบุว่า แม่เล่าว่า ที่ฮ่องกงมีการชุมนุมประท้วงมา 2 เดือน ซึ่งผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ รุ่นใหม่อายุประมาณ 14-18 ปี ซึ่งปกติที่ฮ่องกงจะไม่มีกลุ่มเด็กเกเร หรือรวมตัวกันเพื่อทำสิ่งผิดกฎหมาย แต่การมาชุมนุมครั้งนี้เยาวชนส่วนใหญ่รวมตัวกันมา เพราะมองว่าเรื่องการแก้กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน คือ อนาคตของพวกเขา ซึ่งพวกเขาทำด้วยเหตุผล การชุมนุมจึงไม่รุนแรงมากนัก

แม่เล่าว่า เด็กฮ่องกงเวลาเรียนก็เรียนไม่ได้เป็นพวกเด็กเกเรหากเวลาที่ร่วมพลังต่อต้านเขาก็ทุ่มเทเสียสละซึ่งก็ไม่เคยมีมาก่อน 

ทั้งนี้  น.ส.สรินยา ระบุว่า การเลือกพื้นที่ชุมนุมในฮ่องกงครั้งนี้ ส่วนใหญ่เน้นที่การสกัดกั้นการคมนาคม โดยเฉพาะบริการขนส่งมวลชนสาธารณะ อย่างรถไฟใต้ดิน ซึ่งจะทำให้ทุกคนเห็นปัญหา และทำให้การเดินทางหยุดชะงัก แต่ส่วนใหญ่เขาจะชุมนุมกันเป็นเวลา หากจะเลิกชุมนุมก็เลิกทันที ไม่มีการนอนเฝ้าพื้นที่ชุมนุม และส่วนใหญ่กลุ่มผู้ชุมนุมเหล่านี้ จะออกมารวมตัวกันตามวาระโอกาสที่รัฐบาลเคลื่อนไหวเท่านั้น