ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก หนังพาไป ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า พวกเราเคยตั้งคำถามเรื่อง "โฆษณาบนหน้าต่างรถเมล์" ในเทปแรกสุด.. ของซีซัน 4 (ลอนดอน)
ตอนนั้น ก็มีคนบอกเราว่า แหม.. ก็ช่วยเข้าใจผู้บริหาร ขสมก. บ้างสิ พวกเขาก็พยายามหารายได้เพิ่ม เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดทุนอยู่นะ ความพยายามนี้ของ ขสมก. มันผิดด้วยเหรอ ? อืม..พวกเราก็อึ้งไป...
ผ่านมาปีกว่าๆ.. อาการอึ้ง ของพวกเรา ก็ยังคงอยู่... #ป้ายบอกเส้นทางกรูหายไปไหน #การหารายได้เพิ่มเติมจนเลยเถิดขนาดนี้ #มันไม่ผิดหรอกครับ #ไม่ผิดเลย #ว้อยยยยย..
คดีตัวอย่างรฟท.ติดโฆษณาละเมิดสิทธิ
นอกจากนี้ยัง ยังหยิบข้อมูลคดีตัวอย่างที่เพจเฟซบุ๊ก กฎหมายใกล้มอ เผยแพร่ไว้ โดยพบว่าเป็นกรณีที่ผู้ฟ้องคดีต้องนั่งรถไฟด่วนพิเศษ เพื่อกลับเชียงใหม่เป็นประจำ การที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดโฆษณาที่หน้าต่างรถไฟ ทำให้ผู้ฟ้องคดีไม่สามารถมองเห็นทิวทัศน์เพื่อพักสายตา และเกิดอาการคลื่นไส้
ศาลปกครอง พิจารณาเห็นว่า การที่ผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะ จัดให้มีหน้าต่างแต่ปิดบังไม่ให้ผู้โดยสารมองเห็นทิวทัศน์ในระหว่างเดินทาง หรือเพื่อระแวดระวังอันตรายระหว่างเดินทาง การกระทำดังกล่าวเป็นการปฏิบัติต่อผู้โดยสารเยี่ยงวัตถุ เป็นการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พิพากษาให้ รฟท. ขูดลอกแผ่นป้ายโฆษณาและทำความสะอาดกระจกหน้าต่างรถไฟ คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงที่ อ.231/2550
ทั้งนี้หลังจากมีการตั้งคำถามนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยบางคนก็ระบุว่ารู้สึกภาพโฆษณาที่แปะแบบนี้ ทั้งคนข้างในและคนข้างนอกไม่สามารถมองเห็นได้ หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นคนที่นั่งตรงนั้นจะเป็นยังไง ภาพพวกนี้ทำให้ภายในรถดูอึดอัดไม่โปร่งใส ถ้าคนไม่รู้เส้นทางดูไม่ออกว่าถึงไหนแล้ว
ขณะที่บางคนระบุว่าการที่โฆษณาแปะทับคำอธิบายว่ารถเมล์สายนี้จะผ่านจุดไหนบ้างทำให้มีปัญหาต่อการเดินทาง เป็นต้น
นอกจากนี้ เพจคนอนุรักษ์ ยังได้ตั้งคำถามอีกว่า กรณีนี้ เพราะเขาไม่เคารพสิทธิของผู้โดยสารและในหลายๆ กรณีก็คือสิทธิของประชาชนผู้ใช้บริการจากรัฐหรือเอกชน