วันนี้ (13 ส.ค.2562) นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประชุมหารือร่วมกับนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ถึงความร่วมมือการปลูกพืชกัญชาส่งผลิตเป็นตำรับยาตามกฎหมาย รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาสายพันธ์กัญชา โดยกล่าวว่าได้หารือเกี่ยวกับขั้นตอนการขออนุญาตให้เอื้อต่อภาคเกษตรกรที่ต้องมีการลงทุนเอง ทั้งในเรื่องโรงเรือนปลูก รั้วกั้นขอบเขต การเก็บรักษา รวมถึงการวิจัยพัฒนา ไม่ถูกปิดกั้นด้วยข้อกฎหมาย ซึ่งขณะนี้สามารถทำโครงการวิจัยโดยขออนุญาตได้ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และเสรีกัญชาทางการแพทย์ ที่ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องการใช้และการครอบครอง
ทั้งนี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้มีบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับสภาเกษตรกรแห่งชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฯ สกลนคร มีแหล่งปลูกกระจายทั้ง 4 ภูมิภาค ดังนี้
- ภาคเหนือ โดยสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ จ.ลำปาง ส่งมอบให้ รพ.สมเด็จพระยุพราชเด่นชัย จ.แพร่ และ รพ.ป่าซาง จ.ลำพูน
- ภาคอีสาน โดยสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ จ.บุรีรัมย์ ส่งมอบให้ รพ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จ.สกลนคร
ส่งมอบให้รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร จ.สกลนคร - ภาคกลาง โดยสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ จ.กาญจนบุรี ส่งมอบให้ รพ.ดอนตูม จ.นครปฐม ศูนย์พันธุกรรมวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ส่งกรมแพทย์แผนไทยฯ
- ภาคใต้ สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ จ.สุราษฎร์ธานี ส่งมอบให้ รพ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี โดยขณะนี้ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการฯ ควบคุมยาเสพติดให้โทษ เตรียมเสนอเข้าคณะกรรมการยาเสพติดในวันนี้ (13 ส.ค.)
กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการปลดล็อคในข้อกฎหมายที่อยู่ในการดูแลของกระทรวง เพื่อให้นำมาใช้ประโยชน์ ในด้านการรักษา หากได้ผลดีก็จะพัฒนาและต่อยอดเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ทั้งนี้ จะไม่ให้กระทบต่อสุขภาพของผู้ใช้ เนื่องจากกัญชามีทั้งคุณและโทษต้องอยู่ภายใต้การควบคุม ซึ่งไม่อยากเห็นภาพคนในประเทศเรา นำกัญชาไปใช้ในทางที่ผิดหรือนำกัญชาไปต่างประเทศแล้วโดนจับ