วันนี้ (15 ส.ค.2562) นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการ คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญ (กบข.) เปิดเผยว่า นักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ 32 รายได้ร่วมลงนามที่จะระงับการลงทุน หรือ ไม่ลงทุนเพิ่ม ในบริษัทจดทะเบียนที่ขาดธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม (ESG) และสิ่งแวดล้อม
โดยการระงับลงทุน จะเป็นระยะเวลานานอย่างน้อย 3 เดือนจนกว่าบริษัทจะแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จและคาดหวังว่า มาตรการนี้จะช่วยยกระดับบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็กให้มีธรรมาภิบาลมาตรฐานเดียวกับบริษัทขนาดใหญ่
นักลงทุนที่ร่วมลงนามในครั้งนี้ บริหารสินทรัพย์มากกว่า 10.8 ล้านล้านบาท จึงถือว่าเป็นนักลงทุนกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยสร้างธรรมาภิบาลให้ตลาด
สำหรับเกณฑ์พิจารณา ระงับลงทุน ได้แก่ บริษัทจดทะเบียนฯ กระทำความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ในเรื่องร้ายแรง เช่น แสดงข้อความเท็จ, ปกปิดความจริง , กระทำการไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งอินไซเดอร์ และปั่นหุ้น การกระทำผิดหน้าที่ และความรับผิดชอบกรรมการ และผู้บริหาร ฉ้อฉล ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างมีเงื่ิอนไข รวมทั้งการกระทำผิดเกี่ยวกับธรรมาภิบาล และขาดความรับผิดชอบต่อสังคม อย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานอนุกรรมการนโยบาย อีเอสจี และคอลเล็คทีพ แอคชั่น สมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า นักลงทุนสถาบัน พยายามสนับสนุนการลงทุน บริษัทที่มีESGมาโดยตลอด เช่น กองทุนคนไทยใจดี เป็นกองทุนแรก ที่บริษัทจัดการกองทุนแห่งหนึ่งลงทุนเฉพาะหุ้นที่มี ESG และแบ่งเงินค่าธรรมเนียมร้อยละ 40 ไปบริจาคโครงการที่เกี่ยวข้องกับสังคม สิ่งแวดล้อม รวมทั้ง กองทุนลงทุนในหุ้นทีมีธรรมาภิบาลอื่น ๆ แต่ในการลงนาม ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของโลกและเป็นจุดเริ่มต้น ให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างตลาดทุนอย่างเป็นรูปธรรม