โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยส่งเอกสารร้องเรียนไปยัง ประธานคณะกรรมการดำเนินงานสภาคริสตจักรในประเทศไทยและอีก 5 หน่วยงาน รวมถึง กรมการปกครอง สะท้อนถึงปัญหาภายในระหว่าง โรงเรียน และสภาคริสตจักร อย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน นี่คือเหตุการณ์ที่สังคมออนไลน์กำลังให้ความสนใจต่อปัญหาที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และสภาคริสตจักรในประเทศไทย
ก่อนหน้านี้ นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย และ นายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนถูกกดดันให้ลาออก จากนั้นมีการเคลื่อนไหวของฝ่ายศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และผู้ปกครองบางส่วน ทำให้คณะกรรมการดำเนินงานสภาคริสตจักรในประเทศไทย (Super Board) ยอมผ่อนปรนและสั่งให้พักงานเป็นเวลา 30 วัน พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาความผิด
ในขณะที่การสอบสวนโดยประธานและคณะกรรมการในครั้งนี้ถูกมองว่า อาจมีส่วนได้เสียในประเด็นที่ ผู้อำนวยการ และผู้จัดการโรงเรียน ถูกกล่าวหา และอาจถูกมองว่าไม่เป็นกลาง ขาดหลักธรรมาภิบาล และไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม จึงมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆเพื่อความเป็นธรรมในการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนใหม่ และต้องการให้มีการเพิ่มเติมรายละเอียดของข้อกล่าวหา แต่ก็ยังไม่มีท่าทีใด ๆจากสภาคริสตจักรในประเทศไทย
สำหรับข้อกล่าวหาที่กลายเป็นประเด็นในการเคลื่อนไหวของโรงเรียน ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และผู้ปกครองบางส่วนในครั้งนี้ คณะกรรมการสภาคริสตจักรในประเทศไทยชี้ว่าผู้อำนวยการ และผู้จัดการโรงเรียนดำเนินการที่ขัดต่อระเบียบข้อบังคับการบริหารหน่วยงานและสถาบันของสภาคริสตจักรในประเทศไทยและมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยแต่ขาดรายละเอียดสำคัญ และกระบวนการสอบสวนยังไม่ได้เริ่มขึ้น
ข้อกล่าวหาสำคัญคือการจัดซื้อที่ดินและโรงเรียนบึงกาฬคริสเตียน ซึ่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยมองว่าเป็นการซื้อโดยพลการ ในขณะที่แหล่งข่าวของโรงเรียนเปิดเผยกับไทยพีบีเอสโดยยืนยันว่า โครงการนี้ซึ่งใช้เงินไปประมาณ 70 ล้านบาท แต่ได้รับการอนุมัติจากสภาชุดเก่า ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในพันธกิจของสภาอยู่แล้ว ส่วนเรื่องที่ถูกตั้งข้อกล่าวหานั้นสภาอาจมองว่าเป็นเรื่องการทำข้ามขั้นตอน ซึ่งผู้บริหารพร้อมเข้าชี้แจง
รวมถึงโครงการ Space Program ซึ่งเป็นการสร้างดาวเทียมโดยเป็นความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น โครงการนี้ใช้งบประมาณกว่า 30 ล้านบาท และแหล่งข่าวอ้างว่าได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการดำเนินงานสภาคริสตจักรในประเทศไทย (Super Board) แล้วเช่นกัน
นอกจากนั้นยังมีอีกหลายโครงการ อาทิ การทำสัญญาเช่าสนามฟุตบอลกับโรงพยาบาลศรีธัญญา , โครงการจัดจ้างพนักงานรักษาความสะอาด และ รักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียน ซึ่งข้อกล่าวหาทั้งหมดต้องรอผู้อำนวยการ และผู้จัดการชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนและพิจารณาความผิดต่อไป และเพื่อให้กระบวนการสอบสวนเป็นไปตามธรรมนูญของสภาซึ่งมีระเบียบการสอบสวนกำหนดไว้แล้วจึงมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ
สภาคริสตจักรในประเทศไทยมีรูปแบบเป็นมูลนิธิ โดยปกครองและบริหารกิจการหลายหน่วยงาน รวมถึงโรงพยาบาลและโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง มีเงินหมุนเวียนประมาณปีละ 2,000 - 3,000 ล้านบาท ในขณะที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนแห่งเดียวมีเงินหมุนเวียน 500-600 ล้านบาทต่อปี