วันนี้ (16 ส.ค.2562) ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงการดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) (Bangkok Port Redevelopment Project) ว่า กทท.ได้พัฒนาพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ พื้นที่โซน A พัฒนาเป็นพื้นที่เชิงพาณิชยกรรม พื้นที่โซน B พัฒนาธุรกิจหลักที่ให้บริการเรือและสินค้าของ ทกท.และพื้นที่โซน C พัฒนาเป็นพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่รองรับธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับท่าเรือ (Modern Port City)
ส่วนการพัฒนาพื้นที่โซน B ซึ่งเดิมเป็นลานบรรจุตู้สินค้าเพื่อการส่งออก โรงพักสินค้า และพื้นที่ซ่อมบำรุงเครื่องมือทุ่นแรง พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 500 ไร่ กทท.จะเร่งพัฒนาให้เป็นท่าเรือกึ่งอัตโนมัติ (Smart Port) ศูนย์กลางการกระจายสินค้าและคลังสินค้าขนาดใหญ่กลางกรุงเทพมหานคร สนับสนุนการให้บริการขนส่งสินค้าแบบครบวงจร พร้อมทั้งพัฒนาพื้นที่หลังท่าของ ทกท.ให้สามารถรองรับการปฏิบัติการสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ผู้ใช้บริการและยกระดับการให้บริการสู่ระดับมาตรฐานท่าเรือชั้นนำระดับโลก
ทั้งนี้ มีโครงการพัฒนาสำคัญ คือ โครงการก่อสร้างสถานีบรรจุสินค้าเพื่อการส่งออก CFS ขาออก (Exported Container Freight Station)(พื้นที่ B1) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการบรรจุตู้สินค้าเพื่อการส่งออก ให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย เป็นการพัฒนาธุรกิจ เพิ่มศักยภาพสินทรัพย์ โดยรวบรวมโรงพักสินค้าและคลังสินค้าของ ทกท.มาไว้ในจุดเดียว สามารถรองรับการขยายตัวของปริมาณสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นในอนาคต
สถานีบรรจุสินค้าเพื่อการส่งออกนี้ มีพื้นที่รวมประมาณ 10,000 ตารางเมตร มีช่องบรรจุสินค้าและช่องสำหรับ ขนถ่ายสินค้าอย่างละ 26 ช่อง ลานวางตู้สินค้าขาออกพื้นที่ประมาณ 9,000 ตารางเมตร พื้นที่จอดรถบรรทุก 2,700 ตารางเมตร อาคารสำนักงาน 1 อาคาร (4 ชั้น) และประตูตรวจสอบสินค้า (e-Gate) 3 แห่ง สามารถบรรจุสินค้าขาออก 116,610 ที.อี.ยู./ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการสรรหาผู้รับจ้างงานก่อสร้างอาคารบรรจุสินค้าและระบบสารสนเทศ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2565
สำหรับโครงการท่าเทียบเรือตู้สินค้าฝั่งตะวันตก (BKP West Container Terminal) (พื้นที่ B3) เป็นการพัฒนาการปฏิบัติงานในระบบท่าเรือกึ่งอัตโนมัติ (Semi Automated Container Terminal) ให้บริการตู้สินค้าและเครื่องมือทุ่นแรงที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้การจราจรภายในเขต ทกท.มีความคล่องตัวและปลอดภัยมากขึ้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการศึกษาออกแบบร่างรายละเอียด คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2566
ส่วนโครงการพัฒนาสถานีขนส่งสินค้าทางเรือลำเลียง (Barge Terminal) (พื้นที่ B7) ซึ่งเป็นโครงการสนับสนุนการขนส่งสินค้าโดยเรือลำเลียงชายฝั่ง ซึ่งปัจจุบันได้พัฒนาแล้วเสร็จ โดยมีเป้าหมายการให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือชายฝั่งเพิ่มขึ้นสูงสุด 500,000 ที.อี.ยู./ปี และโครงการพัฒนาระบบประตูเขื่อนตะวันออก (East Main Gate) และจุดขึ้น-ลงทางด่วน (พื้นที่ B9) กทท.ได้ร่วมมือกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ในการศึกษาออกแบบรูปแบบโครงการฯ โดยเพิ่มจุดเชื่อมต่อสำหรับทางขึ้น–ลงทางพิเศษ ช่วงอาจณรงค์ – บางนา (S1) เพื่อลดปัญหาจราจรติดขัดของรถบรรทุกบริเวณทางออกด้านทางพิเศษบูรพาวิถีและทางพิเศษช่วงอาจณรงค์ – รามอินทรา คาดว่าจะเริ่มศึกษาฯ ภายในเดือน ส.ค.2562 นี้ และจะเริ่มก่อสร้างได้ประมาณเดือน เม.ย.2564