วันนี้ (26 ส.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีทีเฟซบุ๊ก “Somroong Sam Chotin” ของนพ.สมรุ่ง โชตินฤมล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ ออกมาเปิดเผยผลตรวจระดับน้ำตาลในเลือดก่อนและหลังกินชานมไข่มุก 1 แก้ว จากอาสาสมัครที่อยู่ในข่ายต้องห้ามของชานมไข่มุก คือคนที่น้ำหนักเกินเกณฑ์
โดยระบุว่าชานมไข่มุกสักแก้ว มันจะเป็นไรไป เมื่อคนท้วม และมีแนวโน้มจะเป็นเบาหวานทานชานมฯ หวานเต็มร้อยแก้วเดียว หลายคนเชื่อยังงั้น
ของยังงี้มันต้องพิสูจน์ ผมจึงไปชักชวนอาสาสมัครที่อยู่ในข่ายต้องห้ามของชานมไข่มุก คือคนที่น้ำหนักเกินเกณฑ์ (BMI>23) และมีแนวโน้มจะเป็นเบาหวาน ได้น้องพยาบาลสาวหน้าตาดีและใจถึง มา1คน และทีมน้องพยาบาลช่วยดูแลสั่งชานมและตรวจเลือดให้
เธอตรวจน้ำตาลตอนเช้าก่อนทานอาหารได้ 121 mg% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ปกติ และให้เธอดื่มชานมไข่มุกฟรีไปหนึ่งแก้ว หลังจากนั้นขอตรวจเลือดซ้ำหลังทานเสร็จสัก 1 ชม.ว่าจะเป็นยังไง ผ่านไป 70 นาทีเราตรวจน้ำเธออีกครั้ง พบว่าน้ำตาลเธอพุ่งขึ้นจาก 121 เป็น 176 mg%
แค่ชานมไข่มุกธรรมดาแก้วเดียว ทำให้น้ำตาลสูงได้ขนาดนี้ ถ้าเป็นร่วมกับอาหารหรือขนม หรือแบบพิเศษมี brown sugar ข้นๆล่ะ คงอร่อยหวานมันมากขึ้นพร้อมๆ กับค่าน้ำตาลที่สูงกว่านี้แคลอรี่ที่จะได้รับมากกว่านี้ เปลี่ยนชานมไข่มุกเป็นเครื่องดื่มผสมน้ำตาลหวานๆ ทั้งกาแฟปั่น ชาไทย น้ำอัดลมฯ คงให้ผลไปในทางเดียวกัน
แม้ว่าการดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้ เป็นประจำจะทำให้บางคนเท่านั้นที่กลายเป็นเบาหวาน แต่ทุกคนจะได้แคลอรี่เพิ่มเติมอย่างแน่นอนและนำไปสู่ความอ้วนในที่สุด
กิน 15-25 แก้วเสี่ยงน้ำหนักเพิ่ม 1 กิโลกรัม
คำนวนได้ว่าหากต้องการเพิ่มน้ำหนักตัวสัก 1 กิโลกรัม ให้ทานชานมไข่มุกในเมืองไทยสัก 15-25 แก้ว คุณก็จะสะสมไขมันในร่างกายเพิ่ม 1 กิโลกรัม ถ้าทานบ่อยๆ เกือบทุกวันย่อมทำให้อ้วนขึ้นถึง 1-2 กิโลกรัม ต่อเดือนได้สบายๆ
ครั้งต่อไปหลังทานเครื่องดื่มหวานๆ แบบนี้เสร็จสัก 1-2 ชม.ลองตรวจน้ำตาลนะครับ คุณจะได้ประโยชน์อย่างหนึ่งคือพอจะทำนายได้ว่าคุณมีโอกาสเป็นเบาหวานหรือไม่
ไทยพีบีเอสออนไลน์ สัมภาษณ์ผู้ที่ดื่มชานมไข่มุกทุกวัน บอกว่าชื่นชอบการดื่มชานมไข่มุกหลายยี่ห้อมาสักระยะหนึ่ง เพราะต้องการรู้ว่าแต่ละยี่ห้อมีรสชาติแบบไหน ต่างกันหรือไม่ และส่วนใหญ่จะสั่งหวานปกติ เพราะไม่ได้กังวลว่าจะอ้วนขึ้นเพราะว่ามีน้ำหนักปกติ
รู้ข่าวว่าหมอออกมาเตือนเรื่องกินชานมไข่มุกทุกวันจะเสี่ยงมีน้ำตาลเพิ่มและเป็นโรคเบาหวานและอ้วน ไม่ค่อยกังวล แต่ก็อยากให้บริโภคแต่พอดีเพราะร่างกายแต่ละคนอาจต่างกัน
ก่อนหน้านี้มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เคยออกผลการตรวจสอบสารกันบูดและน้ำตาลในชานมไข่มุก 25 ยี่ห้อ และพบว่ามีเพียง 2 ยี่ห้อเท่านั้น ที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยกว่า 24 กรัม ซึ่งองค์การอนามัยโลกแนะนำปริมาณน้ำตาลที่ได้รับต่อวัน ไม่ควรเกิน 24 กรัมหรือ 6 ช้อนชา
กรมอนามัย เตือน 1 แก้วให้ลังงาน 360 กิโลแคลอรี
ด้านพญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอนามัยและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คนที่จะดื่มชานมไข่มุกต้องประเมินตนเองด้วยว่าเสี่ยงต่อภาวะอ้วนหรือไม่ เพราะหากดื่มเป็นประจำอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มอย่างรวดเร็วและนำไปสู่การเป็นโรคอ้วน เบาหวาน หัวใจและหลอดเลือดได้
เนื่องจากชานมไข่มุกส่วนใหญ่เป็นการเติมน้ำตาล น้ำเชื่อม นมผง ครีมเทียม และไข่มุกลงในชา ซึ่งทำให้ได้พลังงานมากขึ้นกว่า น้ำชาทั่วไปมาก โดยข้อมูลทางโภชนาการระบุว่า ชานมไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงาน ประมาณ 240-360 กิโลแคลอรี โดยร่างกายจะได้รับคาร์โบไฮเดรต 4-62 กรัม ไขมัน 0–14 กรัม โปรตีน 0.4–2 กรัม ความแตกต่างของพลังงานและสารอาหารขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาลหรือน้ำเชื่อม ไข่มุก นมผง และครีมเทียมที่ใส่ลงไป ซึ่งไข่มุกที่อยู่ในชานมไข่มุกนั้น ผลิตจากแป้งมันสำปะหลัง จัดอยู่ในอาหารหมวดเดียวกับแป้งและน้ำตาล
โดยไข่มุก 30 กรัม ให้พลังงาน 100 กิโลแคลอรี ซึ่งพลังงานที่ได้จากการดื่มชานมไข่มุก 1 แก้ว โดยประมาณ ใกล้เคียงกับการกินก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม หรือเท่ากับข้าวประมาณ 3 – 4 ทัพพีควบคุมความถี่ในการเลือกดื่ม และไม่ควรดื่มชานมไข่มุกเป็นประจำต่อเนื่องทุกวัน แนะนำสัปดาห์ละ 1 – 2 แก้วก็เพียงพอแล้ว และควรหมั่นออกกำลังกาย เพื่อเป็นการเผาผลาญพลังงานที่ร่างกายได้รับในแต่ละวันด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผลตรวจพบ "ชานมไข่มุก" มีสารกันบูด 25 ยี่ห้อ