(27ส.ค.2562)167 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย นี่คือปรากฎการณ์รวมพลังครั้งสำคัญของอาจารย์ ศิษย์เก่า ปัจจุบัน และเครือข่ายผู้ปกครอง ที่ออกมาเคลื่อนไหวนัดกันแต่งชุดดำเป็นการแสดงเชิญสัญลักษณ์ ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งถอดถอนผู้อำนวยการ และ ผู้จัดการโรงเรียนของสภาคริสตจักรในประเทศไทย ชนิดที่ีต้องสั่นสะเทือนไปทั้งสภา
ภายใต้การนำขององค์กร SaveBcc มีการเรียกร้องขอความชัดเจนจากสภาคริสตจักรในประเทศไทยให้เปิดเผยกระบวนการสอบสวน นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ และ ดร.วัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้อำนวยการ และ ผู้จัดการโรงเรียน ที่ถูกกล่าวหาโดยไม่มีรายละเอียดชัดเจน และถูกสั่งย้ายไปอยู่จ.เชียงใหม่ แม้จะเป็นการถอดถอนชั่วคราวระหว่างรอผลการสอบสวน แต่องค์กร SaveBcc พยายามชี้ให้เห็นว่าปัญหาอยู่การดำเนินการบางเรื่องที่อ้างว่าผิดระเบียบไม่น่าจะมีบทลงโทษเช่นนี้ จึงอาจมีเงื่อนงำการสอบสวนไม่โปร่งใส เนื่องจากบุคคลที่เป็นผู้กล่าวหา สอบสวน และผู้ตัดสิน เป็นคนเดียวกัน ไม่เป็นไปตามหลักปฏิบัติมาตรฐานความชอบธรรม และไม่เป็นไปตามธรรมนูญสภาตริสตจักรในการสอบสวนความผิด
ในขณะที่สภาคริสตจักรยังไม่ออกมาเคลื่อนไหวหรือแม้แต่สื่อสารกับสังคม แต่องค์กร SaveBcc มีการเปิดเผยเอกสารสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าการซื้อโรงเรียนบึงกาฬพิทักษ์ศึกษาพร้อมปรับปรุงที่ดินโดยรอบ รวมมูลค่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งใน 6 โครงการที่ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการผิดขั้นตอนนั้น ผ่านการอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารโรงเรียนทั้งคณะ และนำเสนอสภาคริสตจักรในประเทศไทยไปแล้ว
ส่วนอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน นายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ส่งหนังสือไปยังคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ร้องเรียนว่าคำสั่งย้ายไปจ.เชียงใหม่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเอกชน มีผลกระทบต่อการดำเนินการด้านการศึกษาของโรงเรียน โดยให้คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนพิจารราคำสั่งย้ายงานในครั้งนี้
สำหรับบรรยากาศในการยื่นข้อเรียกร้องไปยังสภาคริสตจักรของ องค์กร SaveBcc ผ่านตัวแทนผู้บริหารคนใหม่วันนี้กลับไม่ราบรื่นเท่าใดนักเพราะศิษยืเก่าและผุ้ปกครองไม่พอใจที่ ดร.บรรจง ชมภูวงศ์ ในฐานะรักษาการ ผู้จัดการ และ ผู้อำนวยการโรงเรียนที่เข้ามารับเผือกร้อนเป็นวันแรกอาจทำผิด พรบ.โรงเรียนเอกชน 2560 จากการออกคำสั่งให้นักเรียนหยุดเรียนในวันนี้ แม้จะเกรงเกิดการเผชิญหน้าและเด็กนักเรียนอาจจะได้รับผลกระทบแต่ไม่พ้นถูกตั้งข้อสังเกตุว่าถูกส่งมาทำหน้าที่เป็นกันชนให้กับสภาคริสตจักรหรือไม่?
สำหรับกรอบระยะเวลาการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาความผิดภายใน 30 วันจะครบกำหนดในวันที่ 7 กันยายนนี้ และหากไม่มีท่าทีใดๆจากสภาต่อการเคลื่อนไหวครั้งนี้ สภาคริสตจักรในประเทศไทยอาจต้องเผชิญกับการถูกกดดันอย่างต่อเนื่องทั้งทางสังคม และโซเชียล และคงไม่นานที่บาดแผลขนาดใหญ่ระหว่างสภา กับ โรงเรียน จะถูกเปิดเผยและนำไปสู่การตรวจสอบจากองค์กรภายนอกเช่นกัน