เพิ่มอีก! นศ.ปี1 ถูกรุ่นพี่รับน้องโหดเข้าแจ้งความอีก 4 คน

วันนี้ (28 ส.ค.2562) ที่สน.สามเสน หลังจากที่นักศึกษาสาขาเทคโนโลยีอุตสาหการ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.สามเสน ว่าถูกรุ่นพี่ชั้นปีที่ 3 ให้เข้าร่วมกิจกรรมรับน้องใหม่ และทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง เช้าวันนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกให้ผู้เสียหายเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง 

รมช.ศธ.รับเรื่องร้องเรียนนศ.ที่ถูกทำร้ายร่างกาย

ขณะเดียวกันเมื่อวานที่ผ่านมาทีมงานของคุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รมช.กระทรวงศึกษาธิการ ได้เข้าพบกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่เข้ารับน้องใหม่และถูกทำร้ายร่างกายรวม 10 คน เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้การช่วยเหลือเบื้องต้นในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลสถานศึกษาแห่งนี้ จึงให้ทุกคนที่ได้รับผลกระทบรวมตัวมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในวันนี้ ซึ่งวันนี้ก็มีผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวนแล้ว 4 คน ส่วนที่เหลือยังคงหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บางคนจึงกลับไปและยังไม่อยากมีภาพออกสื่อมวลชน

รายชื่อนศ.ที่เตรียมเข้าแจ้งความ แผ่นที่ 1

รายชื่อนศ.ที่เตรียมเข้าแจ้งความ แผ่นที่ 2

เร่งสอบหาจำนวนรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ

พ.ต.อ.สรพงษ์ นาคะโยคี ผู้กำกับการสน.สามเสน เปิดเผยว่า ประเด็นที่ต้องมีการเรียกสอบสวนเพิ่มเติมจะเน้นไปที่รายละเอียดว่า รุ่นพี่ที่ก่อเหตุชื่ออะไร มีจำนวนกี่คน และใข้วิธีการใดบ้างในการสั่งทำโทษ หรือรุมทำร้ายร่างกายตามที่มีการแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากว่าข้อมูลที่ปรากฏออกไปในสื่อมวลชนกับข้อเท็จจริงที่ผู้เสียหายได้ให้ปากคำไว้ ยังคาดเคลื่อนไม่ตรงกันทั้งหมด จึงต้องเรียกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อความชัดเจน โดยเฉพาะจำนวนรุ่นพี่ที่มาก่อเหตุ เพื่อจะได้ตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ครบทั้งหมด ส่วนนักศึกษาที่มาแจ้งความก็จะพาไปตรวจร่างกายเพื่อตรวจสอบรอยบาดเจ็บที่เกิดขึ้น

เคยแจ้งเรื่องกับคณบดีแล้วเงียบ

หนึ่งในผู้ปกครองที่พาลูกชายเข้าแจ้งความ

หนึ่งในผู้ปกครองของผู้เสียหาย เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ลูกชายเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกรุ่นพี่รับน้องโหด ตั้งแต่เดือนมิถุนายน และเคยปรับทุกข์กับตนว่าไม่อยากไปเรียนหนังสืออีกก่อนจะขอลาเรียนไป 2 วัน ระหว่างนั้นก็พยายามสอบถามเอาข้อเท็จจริงหลายครั้ง แต่ลูกชายก็เล่าให้ฟังเพียงเล็กน้อย และไม่ยอมเปิดร่องรอยบาดแผลที่หน้าอกให้ดูจะเห็นก็เพียงรอยฟกช้ำจางๆ ที่หัวไหล่

ระหว่างนั้นก็เคยแอบดูข้อความแชทของลูกชายที่คุยกับเพื่อนในกลุ่ม ทุกคนต่างปรับทุกข์เรื่องที่ถูกทำโทษ และไม่อยากเข้าเรียนต่อส่วนลูกชายได้ตัดสินใจขอทำเรื่องลาออกแล้ว เพราะทนกับระบบรับน้องแบบนี้ไม่ไหว ครั้งแรกก็ตั้งใจจะเข้าแจ้งความเหมือนกัน

ก่อนหน้านี้เคยไปร้องเรียนปัญหานี้กับคณบดีเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว คณบดีก็อ้างว่าเรื่องรับน้องของมหาวิทยาลัยมีกิจกรรมเพียง 2 ครั้ง ไม่ทราบเรื่องที่มีรุ่นพี่พาไปรับน้องที่อื่น แต่เรื่องก็เงียบหายจนกระทั่งมาทราบข่าวที่มีนักศึกษามาแจ้งความกับตำรวจ จึงพาลูกชายมาแจ้งความด้วย และต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับทางมหาวิทยาลัยให้ดูแลเรื่องนี้อย่างจริงจังไม่ปกป้องคนผิด รวมถึงเยียวยาเรื่องสถานที่เรียนใหม่ให้กับลูกชายด้วย

ผู้ปกครองอีกคนหนึ่งที่ตัดสินใจพาลูกชายมาแจ้งความคนแรก บอกว่า หลังจากเกิดเรื่องสังเกตเห็นลูกชายมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เก็บตัวเงียบลงกว่าที่เคยเป็น และยังรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งยืนยันว่าจะไม่ศึกษาต่อที่สถาบันแห่งนี้แม้ว่าทางมหาวิทยาลัยจะให้เปลี่ยนที่เรียนไปที่อื่นที่เป็นสถาบันในเครือ พร้อมทั้งอยากให้ทางมหาวิทยาลัยเร่งแก้ไขเยียวยาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เบื้องต้นได้รับการประสานว่าจะคืนค่าเทอม และจัดหาที่เรียนให้ใหม่แต่ลูกชายก็ยืนยันแล้วว่าจะไม่เรียนที่นี่ต่อ

มทร.พระนคร ออกแถลงการณ์

แถลงการณ์ มทร.พระนคร ฉบับที่ 1

เมื่อคืนที่ผ่านมา (27 ส.ค.2562) หลังจากที่ประชุมของผู้บริหารภายใน มทร.พระนครเสร็จสิ้นในเวลาประมาณ 20.00 น. มหาวิทยาลัยฯ ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง รายงานความคืบหน้ากรณีนักศึกษารับน้องรุงแรง ฉบับที่ 1 โดยชี้แจ้งใน 5 ข้อดังนี้

1. อธิการบดีพร้อมคณะผู้บริหารได้พบปะพูดคุยกับนักศึกษาผู้เสียหายและผู้ปกครองแล้ว เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2562 โดยพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือเยียวยานักศึกษา โดยจะติดต่อหาที่เรียนให้นักศึกษาตามที่นักศึกษาแจ้งความจำนง พร้อมคืนค่าลงทะเบียนให้นักศึกษาเต็มจำนวน
2. มหาวิทยาลัยฯ ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยนักศึกษาจากกรณีดังกล่าวโดยให้รายงานผลแก่มหาวิทยาลัยฯ ทราบภายใน 7 วัน และจะสั่งลงโทษนักศึกษาที่เกี่ยวข้องตามความผิดทันทีแล้วแต่กรณี ตั้งแต่ตัดคะแนนความประพฤติ สั่งพักการเรียน จนถึงให้ออก
3. สำหรับกรณีศิษย์เก่าที่เข้ามามีส่วนร่วมนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างสอบหาข้อเท็จจริง หากพบว่ามีศิษย์เก่าเข้ามามีส่วนร่วมจริงจะห้ามเข้ามาทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยฯ
4. มอบหมายนักจิตวิทยาให้คำปรึกษาแก่นักศึกษาผู้ได้รับผลกระทบ
5. มหาวิทยาลัยฯ ได้มอบหมายสถาบันวิจัยและพัฒนาดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อหาแนวทางรูปแบบการจัดกิจกรรมรับน้องของนักศึกษาที่เหมาะสมอย่างสร้างสรรค์

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยฯ รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่งโดยจะดำเนินการหาแนวทางในการป้องกันและปราบปรามที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป 

 มทร.เร่งสอบสวนนศ.ที่เกี่ยวข้อง

มีรายงานว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยฯ กำลังตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด และเรียกนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และปีที่ 3 ที่อยู่ในสาขาดังกล่าวมาสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียดทั้งหมด เพื่อหาข้อเท็จจริงและดำเนินการช่วยเหลือนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบ แต่ก็มีนักศึกษาบางส่วนที่ไม่ได้เข้าระบบกิจกรรมรับน้องที่มีไม่ถึง 10 คน ยังคงเข้าเรียนตามปกติ แต่นักศึกษากลุ่มนี้จะไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว