เช็กข่าวน้ำท่วม - บอกเพื่อนๆ ว่าคุณปลอดภัยผ่านเฟซบุ๊ก

วันนี้ (1 ก.ย.2562) เฟซบุ๊กแจ้งเตือน "crisis response" การรับมือภาวะวิกฤต ตรวจสอบสถานะความปลอดภัยเหตุอุทกภัยทั่วจังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย ขณะที่หน้าไทม์ไลน์เฟซบุ๊กตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเพื่อนๆ ที่อยู่ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ระบุว่า ปลอดภัยดีในช่วงที่เกิดอุทกภัยทั่วจังหวัดขอนแก่น

ตรวจสอบสถานะความปลอดภัยจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้ ส่งผลให้คนที่อยู่ในพื้นที่สามารถแจ้งสถานะเกี่ยวกับเหตุอุกทภัยดังกล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยครั้งนี้หรือไม่ และรวบรวมข่าวจากเฟซบุ๊กเพื่อให้ทุกคนสามารถติดตามสถานการณ์ การเข้าให้ความช่วยเหลือ เส้นทางที่ถูกตัดขาด หรือบริเวณที่ได้รับผลกระทบแบบเรียลไทม์

หลังมีรายงานการเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากพายุดีเปรสชันเขตร้อนโพดุล ส่งผลให้ฝนตกหนัก โดยเฉพาะใน จ.ร้อยเอ็ดและขอนแก่น ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูง โดยมีผู้ประสบภัยจำนวนไม่น้อยที่ต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในบนชั้น 2 ของที่พัก อย่างในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ และบางพื้นที่ในร้อยเอ็ด และมีถนนหลายสายยังได้รับความเสียหายและไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้

นอกจากนี้ เฟซบุ๊ก ยังได้จัดทำโพสต์สำหรับการขอความช่วยเหลือและการให้ความช่วยเหลือ ผ่านการเช็กอินตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบจากอุทุกภัย พร้อมระบุสิ่งที่ต้องการความช่วยเหลือ ทั้งที่พัก อาหาร น้ำ เสื้อผ้า การเดินทาง หรืองานอาสาสมัคร พร้อมให้ผู้ที่ต้องการเข้าไปช่วยเหลือสามารถโพสต์พิกัดที่สามารถเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อีกด้วย 

โซเชียลมีเดียกับการช่วยเหลือช่วงอุทกภัย

แม้โซเชียลมีเดียจะเป็นช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลที่รวดเร็วที่สุด จนอาจทำให้เกิดกรณีเฟคนิวส์ได้มาก แต่ก็เป็นอีกช่องทางที่ผู้ที่เดือดร้อนจริงๆ ใช้ในการขอความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในช่วงเกิดเหตตุภัยพิบัติ อย่างอุทกภัยได้เป็นอย่างดี จากเหตุการณ์ฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน บริเวณโรงเรียนอนุบาลโพนทอง ต.โพนทอง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ทำให้นักเรียน 500 คน ไม่สามารถกลับบ้านได้ ก็มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้ถ่ายทอดสดเหตุการณ์ พร้อมขอกำลังเจ้าหน้าที่ให้เข้าช่วยเหลือ จนนายอำเภอโพนทอง ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือทยอยขนย้ายนักเรียนออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย

(อ่านข่าวเพิ่มเติม : ฝนถล่มน้ำทะลัก 500 หนูน้อยอนุบาลโพนทองติดเกาะ)

นอกจากนี้ ในเพจเฟซบุ๊กต่างๆ ซึ่งเป็นเพจท้องถิ่นก็ได้มีโอกาสใช้โซเชียลมีเดียในการรายงานสถานการณ์และการขอความช่วยเหลือ รวมถึงการเข้าให้ความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจ้งเตือนเส้นทางจราจร เพื่อให้ผู้คนเตรียมความพร้อมและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่ประสบอุกภัยได้ ส่วนผู้ที่อยู่นอกพื้นที่อุทกภัยก็สามารถติดตามสถานการณ์ได้อย่างใกล้ชิดอีกด้วย นับว่าเสื่อโซเชียลมีเดียในยุคปัจจุบันเข้ามาเป็นอีกช่องทางสำคัญต่อการเข้าถึงการช่วยเหลือในช่วงอุทกภัยมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง