"ดีเปรสชัน" ลูกใหม่เพิ่มความเสี่ยงจังหวัดริมโขงท่วมซ้ำ

วันนี้ (2 ก.ย.2562) นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ขณะนี้ทาง สทนช. ติดตามพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทย ในช่วงวันที่ 2-3 ก.ย.นี้ โดยประเมินสถานการณ์น้ำจากพายุโพดุล ที่ยังส่งผลให้ยังมีน้ำท่วมขังในจังหวัดภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดที่อยู่ติดแม่น้ำชี แม่น้ำมูล และบางส่วนของลำน้ำก่ำ ที่ยังมีปริมาณน้ำท่วมขังสูง ซึ่งกรมชลประทาน และหน่วยงานต่างๆ เข้าช่วยเหลือ และเร่งระบายน้ำลงในแม่น้ำ และลำน้ำสาขาต่างๆ รวมทั้งการลดการระบายน้ำจากเขื่อนขนาดใหญ่ลง

แต่ยังต้องประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามเฝ้าระวังระดับน้ำ และแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงอุทกภัย น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม บริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำที่มีความจุมากกว่า 80% ตรวจสอบสิ่งกีดขวาง การระบายน้ำ รวมทั้งเร่งให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัย

เตือนทุกจังหวัดริมโขงเฝ้าระวังแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ขณะนี้เกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในหลายพื้นที่ ได้แก่ ลำน้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ แม่น้ำยม จ.แพร่ แม่น้ำน่าน จ.พิษณุโลก น้ำล้นตลิ่งต่ำ บริเวณห้วยหลวง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี แม่น้ำสงคราม อ.อากาศอำนวย อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ลำน้ำยัง อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์อ.โพนทอง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด อ.เมือง จ.ยโสธร และ ลำเซบาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี

ทุกจังหวัดริมน้ำโขงมีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณโขงเจียม จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ส่วนปริมาณน้ำในแหล่งน้ำ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกภาค โดยมีปริมาณน้ำรวม 45,603 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 56% น้ำบาดาล 1,228 ล้าน ลบ.ม.เดือน แหล่งน้ำขนาดใหญ่ 38 แห่ง แหล่งน้ำที่มีปริมาตรน้ำอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหนองหาร จ.สกลนคร ร้อยละ 98 ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลลงเพิ่มขึ้น และเขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ร้อยละ 80 เฝ้าระวังน้ำน้อย 14 แห่ง 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อิทธิพล "ดีเปรสชัน" เตือน "อีสาน" รับมือฝนตกหนัก 

เช็กถนนน้ำท่วม 13 จังหวัด "อีสาน-ใต้" ผ่านได้แล้ว 32 เส้นทาง

"นายกรัฐมนตรี" สั่งมหาดไทย-กองทัพช่วยเหลือผู้ประสบภัยโพดุล