นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงแห่งบ้านบางกลอยบน-ใจแผ่นดิน โดยเคลื่อนไหวร่วมกับชาวบ้านในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเตรียมฟ้องคดีต่อเจ้าหน้าที่ กรณีการเข้ารื้อทำลายบ้านเรือนและทรัพย์สินของชาวกะเหรี่ยงกว่า 20 ครอบครัว เมื่อปี 2554 ต่อมาในปี 2557 หลังบิลลี่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน เพื่อนำตัวไปสอบสวน ก่อนแจ้งว่าได้ปล่อยตัวบิลลี่แล้ว แต่ไม่มีบุคคลใดพบเห็นบิลลี่อีกเลยนานกว่า 5 ปี
17 เม.ย.2557 บิลลี่ หายตัวไปที่ด่านมะเร็ว อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หลังมีข่าวว่าบิลลี่ถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน ควบคุมตัวไว้
18 เม.ย.2557 เวลา 06.00 น. คนในครอบครัวยืนยันว่า บิลลี่ยังไม่ได้กลับบ้านจนถึงเวลา 08.00 น.จากนั้นชาวบ้านได้ออกค้นหาจนถึงเวลา 20.00 น. ผู้ใหญ่บ้านบางกลอยเข้าแจ้งความคนหาย ที่สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน ต่อมาพนักงานสอบสวนตรวจสอบพบว่านายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำตัวบิลลี่ไป โดยยอมรับว่าควบคุมตัวบิลลี่ไว้จริง โดยให้เหตุผลว่าบิลลี่มีน้ำผึ้งป่าไว้ในครอบครอง จึงเรียกไปตักเตือน แต่ได้ปล่อยตัวไปแล้ว
21 เม.ย.2557 น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาของบิลลี่ พร้อมผู้แทนชาวกระเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตตะนาวศรี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับผู้ว่าราชการจังหวัด และผบภ.จว.เพชรบุรี ซึ่งนายชัยวัฒน์ ผู้ถูกกล่าวหาว่ากักขังหน่วงเหนียวบิลลี่ ยอมรับว่ามีการควบคุมตัวบิลลี่จริง แต่ได้ปล่อยตัวไปแล้ว โดยมีน้องสาวบิลลี่เห็นบิลลี่ภายหลังปล่อยตัว
24 เม.ย.2557 ภรรยาของบิลลี่ พร้อมทนายยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน ตาม ป.วิอาญามาตรา 90 โดยถูกควบคุมตัวโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเชื่อว่าบิลลี่ยังคงถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน และหวังว่าศาลจะช่วยให้ทราบได้ว่าบิลลี่อยู่ที่ใด และหากยังคุมตัวไว้โดยที่ไม่มีอำนาจควบคุม ก็ขอให้ปล่อยตัวบิลลี่ออกมา
2 ก.ย.2557 ศาลฏีกายกคำร้องในคดีอดีตหัวหน้าหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานที่ถูกกล่าวหา ตาม ป.วิอาญามาตรา 90 ควบคุมตัวบิลลี่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เหตุผลว่าหลักฐานไม่เพียงพอ
16 ม.ค.2560 ดีเอสไอ แจ้งต่อภรรยาของบิลลี่ว่า คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติไม่รับกรณีการหายตัวไปของบิลลี่เป็นคดีพิเศษ โดยมติดังกล่าวเป็นมติที่ประชุมวันที่ 10 มิ.ย.2559 โดยอ้างถึงเหตุผล 3 ประการ ได้แก่ การสืบสวนยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อีกทั้งยังให้เหตุผลว่าภรรยาของบิลลี่ไม่มีสิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน เนื่องจากไม่ได้มีการจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย การสอบสวนของดีเอสไออาจจะกระทำได้หากมีการพบเจอร่างของบิลลี่เท่านั้น
28 มิ.ย.2561 ดีเอสไอได้รับคดีการหายตัวไปของบิลลี่เป็นคดีพิเศษ และเริ่มสอบสวนเมื่อปลายเดือน มิ.ย.2561
พ.ค.2562 ดีเอสไอ ลงพื้นที่อุทยานฯ แก่งกระจาน พบหลักฐานชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์ เหล็กเส้น และถังน้ำมัน 200 ลิตร ใกล้สะพานแขวน ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวชื่อดังในเขตอุทยานฯ แก่งกระจาน
27 ส.ค.2562 ภรรยาของบิลลี่ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้ศาลสั่งให้บิลลี่เป็นบุคคลสาบสูญ หลังจากหายตัวไป 5 ปี โดยมีพยานหลักฐานน่าเชื่อถือได้ว่าบิลลี่ถูกบังคับให้หายสาบสูญโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ศาลกำหนดนัดไต่สวนวันที่ 28 ต.ค.นี้
3 ก.ย.2562 ดีเอสไอ แถลงความคืบหน้าคดี ระบุว่าพบหลักฐานสำคัญชิ้นส่วนกระดูกมนุษย์และกระโหลกที่อยู่ภายในถังน้ำมัน ยืนยันว่าผลดีเอ็นเอตรงกับ "บิลลี่"
11 พ.ย.2562 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติหมายจับนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน คดีฆาตกรรมนายพอละจี ขณะที่นายชัยวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ว่าเตรียมมอบตัวกับดีเอสไอวันนี้ (12 พ.ย.2562)