วันนี้ (4 ก.ย.2562) นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กล่าวว่า จะนำรถโดยสารปรับอากาศ ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้ามาทดลองวิ่งเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการทำงาน และสมรรถนะของรถโดยสารดังกล่าว
ทั้งนี้จะนำมาทดลองวิ่งให้บริการประชาชนตั้งแต่ วันที่ 4 ก.ย. - 18 ต.ค.62 รวม 45 วัน ซึ่งจัดเก็บค่าโดยสารตามอัตราปกติของแต่ละเส้นทาง
เส้นทางแรกสาย 129 อู่บางเขน - สำโรงทดลอง วิ่งตั้งแต่วันที่ 4 - 8 ก.ย. เก็บค่าโดยสาร 15 - 20 - 25 ขึ้นทางด่วนเพิ่มอีก 2 บาท
เส้นทางที่ 2 สาย A1 ท่าอากาศยานดอนเมือง - สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) ทดลองวิ่งตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. - 3 ต.ค.62 ค่าโดยสาร 30 บาทตลอดสาย
เส้นทางที่ 3 สาย 522 อู่รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทดลองวิ่งตั้งแต่วันที่ 4 - 18 ต.ค.62 ค่าโดยสาร 13-25 บาท ขึ้นทางด่วนเพิ่มอีก 2 บาท
ระหว่างการทดลองวิ่งรถโดยสารไฟฟ้าทั้ง 3 เส้นทางจะมีการบันทึกข้อมูลและสถิติการเดินรถต่าง ๆ หลังจากที่ผ่านมาได้ทดลองไปแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรก เดือน มิ.ย.58 บริษัทล็อกซเล่ย์ ได้เริ่มต้นทดลองวิ่งกับรถประจำทางปรับอากาศสาย 511 ประตูน้ำ - วัดธาตุทอง ครั้งที่ 2 เมื่อ ส.ค.61 นำรถโดยสารไฟฟ้าของบริษัท Edison Motors จำกัด จากประเทศเกาหลีใต้ มาทดลองให้บริการใน 6 เส้นทาง ซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้ข้อสรุป
หลังจากนี้ จะรวบรวมนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบพิจารณาในการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้าจำนวน 35 คัน ตามแผนฟื้นฟูของ ขสมก.ที่จะต้องทยอยเปลี่ยนรถโดยสาร รวม 2,188 คัน ใน 4 ประเภท คือ รถเมล์เอ็นจีวี เช่า 400 คัน รถเมล์ไฮบริดจ์ เช่า 300 คัน รถเมล์ไฮบริด ซื้อ 1,453 คัน และรถเมล์ไฟฟ้า 35 คัน โดยกลุ่มรถเมล์เอ็นจีวีและรถเมล์ไฮบริดเช่า ทั้ง 700 คัน คาดว่าจะเริ่มกระบวนการเปลี่ยนได้ภายในสิ้นปี
สำหรับรถโดยสารปรับอากาศไฟฟ้าคันนี้มี 24 ที่นั่ง ออกแบบให้สามารถรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารทุกกลุ่ม รวมถึงคนพิการ ซึ่งมีทางลาดเพื่อเข็นวีลแชร์ขึ้นลงรถได้อย่างสะดวกปลอดภัยพร้อมที่จอดวีลแชร์ 1 คัน
ส่วนสถานีชาร์จรถไฟฟ้า แต่ละครั้งใช้เวลาชาร์จประมาณ 2.30 ชั่วโมง วิ่งได้ 200 กม.ซึ่งจากการทดลองสามารถชาร์จได้สำหรับการให้บริการไป-กลับได้
ขณะที่ความคืบหน้าของนโยบายกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ในการลดค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะนั้น เบื้องต้น ขสมก.ได้เสนอแผนการลดค่าโดยสารไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้ว แต่จะสามารถปรับลดค่าโดยสารลงได้ในอัตราเท่าใดยังไม่สามารถสรุปได้ และอำนาจในการพิจารณาค่าโดยสาร เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางที่จะเป็นผู้กำหนด คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะได้ข้อสรุป