วันนี้ ( 4 ก.ย.2562) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมเป็นสักขีพยานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย)และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเกี่ยวกับการใช้กัญชาทางการแพทย์ และยาควบคุมอื่นสำหรับสถานพยาบาลหรือหน่วยงานที่ได้รับอนุญาต ซึ่งปัจจุบันการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ในระบบสุขภาพยังขาดการเชื่อมโยง เกิดความซ้ำซ้อน
แต่ระบบนี้จะช่วยลดภาระของหน่วยบริการในการนำเข้าข้อมูลผ่านระบบเพื่อจัดทำเป็นรายงาน ลดภาระหน่วยงานภาครัฐในการจัดเก็บข้อมูล ลดอัตราเสี่ยงในการเบิกยาซ้ำช้อนในผู้ป่วยรายเดียว ส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐมีข้อมูลมากพอที่จะประมวลผล วิเคราะห์ความปลอดภัย จากการใช้กัญชาทางการแพทย์ ยาควบคุมอื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีระบบการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่7) พ.ศ. 2562 กำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตให้จำหน่ายกัญชา เช่นสถานพยาบาลต่างๆ ต้องจัดทำบัญชีรับ-จ่าย รายงานการจำหน่ายจำแนกตามชนิดของผลิตภัณฑ์ พร้อมระบุรายละเอียดของแพทย์ผู้สั่งจ่ายข้อมูลผู้ป่วยแต่ละราย จัดทำเป็นรายงานเสนอต่อเลขาธิการ อย. ทั้งรายเดือนและรายปี ภายใน 30 วันนับแต่วันสิ้นเดือนหรือสิ้นปี แล้วแต่กรณีและต้องพร้อมแสดงต่อเจ้าหน้าที่ทุกเวลามีกำหนด 5 ปี นับตั้งแต่วันที่ลงรายการครั้งสุดท้ายรวมทั้งกำหนดให้ผู้รับอนุญาต รายงานประสิทธิผล และความปลอดภัยจากการใช้ยาในผู้ป่วยทุกคนให้ อย.ทราบทุกเดือนในรูปแบบของ SAS monitoring program (intensive monitoring)
ขณะที่ สปสช.จะมีระบบสารสนเทศเพื่อการจ่ายชดเชยยารายบุคคล เพื่อให้หน่วยบริการสุขภาพบันทึกข้อมูลการสั่งใช้ยาที่มีการควบคุมการใช้ตามบัญชียาหลักแห่งชาติให้ผู้ป่วยเข้าถึงยาได้อย่างเหมาะสม ซึ่ง อย.นำมาต่อยอดสั่งจ่ายกัญชาทางการแพทย์และยาควบคุมอื่นในสถานพยาบาล หรือ หน่วยงานที่ได้รับการอนุญาต ช่วยลดภาระสถานพยาบาลหรือหน่วยงานที่ได้รับการอนุญาตในการรายงานการสั่งจ่ายกัญชาทางการแพทย์และยาควบคุมอื่น ตลอดจนอำนวยความสะดวกในการจัดทำบัญชีรับจ่ายและรายงานที่เกี่ยวข้องกับการสั่งจ่ายกัญชาทางการแพทย์และยาควบคุมอื่นทำให้ระบบทันสมัย