รศ.ดร.เกษม ชูจารุกุล รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในการสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 14 “เดิน ขี่ ขับ ไป-กลับ ปลอดภัย” สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) กรมการขนส่งทางบกว่า อัตราการเสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ของประเทศไทยอยู่ที่ระดับมากกว่า 30 ต่อประชากรแสนคนมาโดยตลอด
ตั้งแต่โครงการ ThaiRAP เริ่มศึกษามาตรฐานความปลอดภัยทางถนนในประเทศไทยเมื่อปี 2554 ตัวเลขดังกล่าวยังตอกย้ำผลการศึกษาและผลประเมินถนนของไทยที่ตอบโจทย์เพียงความปลอดภัยของการขับขี่รถยนต์เป็นหลักแต่ยังไม่ครอบคลุมกลุ่ม “ผู้เปราะบางบนท้องถนน” โดยเฉพาะผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่มีมากถึง 60 ล้านคัน โดยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิตสูง หากประเมินถนนประเทศไทย โดยใช้มาตรฐานของ iRAP จะพบว่ามากกว่า 80 - 90% อยู่ในระดับ 1-2 ดาวเท่านั้น ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้ใช้ถนนเช่นคนเดินเท้าและคนขับมอเตอร์ไซค์
ถ้าเราลงทุนเพียง 0.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ หรือประมาณ 1,470 ล้านบาทในการปรับปรุงถนนให้ได้มาตรฐาน 3 ดาวสำหรับผู้ใช้งานทุกประเภท จะสามารถลดการสูญเสียชีวิตได้มากถึง 8,930 คนต่อปี การบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตที่จะลดลงในช่วง 20 ปีจะมีมากกว่า 1.96 ล้านคน
นายอัลวิน ปอย ไหว ฮุง หัวหน้าหน่วยวิศวกรรมจราจรและทางหลวง สถาบันวิจัยความปลอดภัยทางถนนแห่งมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียเริ่มนำนโยบายเลนรถจักรยานยนต์มาใช้เมื่อปี 2548 เพื่อลดปัญหาการใช้ความเร็วเกินกำหนด โดยเริ่มจากการปรับปรุงถนนทางหลวงระยะทาง 150 กิโลเมตร ให้เลนมีความกว้างประมาณ 2 - 2.5 เมตร สำหรับรถจักรยานยนต์โดยเฉพาะ มาตรการดังกล่าวช่วยลดอุบัติเหตุได้ถึง 39 % ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อสร้างเลนมอเตอร์ไซค์ขนาดความกว้างประมาณ 3 เมตรในถนนเส้นทางอื่น
นอกจากเรื่องเลนรถจักรยานยนต์แล้ว ปัจจัยอื่น ๆ เช่น แสงไฟ จุดกลับรถ ถนนทางหลวงระดับจังหวัด อำเภอและตำบลที่ออกแบบไม่ดีควรได้รับการปรับปรุงดูแล เพื่อความปลอดภัยของการจราจรและการใช้ถนนตลอดเส้นทาง
นายจอห์น แชตเทอร์ตัน รอส เลขาธิการสหพันธ์รถจักรยานยนต์นานาชาติ กล่าวว่า อีกหนึ่งมาตรการที่ประเทศไทยควรมีคือข้อบังคับการติดตั้งระบบ anti-lock braking system: ABS เบรกเอบีเอสควรติดที่บริเวณล้อหน้าของรถจักรยานยนต์ขนาด 120 ซีซีขึ้นไปจากโรงงานผลิตเพื่อยกระดับความปลอดภัยในระบบการจัดการความปลอดภัยโดยภาครัฐ
สำหรับด้านพฤติกรรมจำเป็นต้องมีกฎหมายและข้อบังคับ ยกตัวอย่างเช่นประเทศอังกฤษ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาด 125 ซีซีขึ้นไป จำเป็นต้องผ่านการฝึกอบรมเป็นเวลา 6 ชั่วโมง และต้องผ่านการทดสอบต่าง ๆ จึงจะได้รับใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ได้ และผู้ขับขี่ต้องต่อใบอนุญาตทุก ๆ 2 ปีและเสียค่าธรรมเนียมในราคาสูงมากทำให้ลดจำนวนผู้ขับขี่ไปโดยปริยาย ทั้งนี้ สามารถนำมาปรับใช้กับประเทศไทยที่มีโรงงานผลิตจักรยานยนต์ที่ได้มาตรฐานระดับโลก แรงงานมีทักษะและประสบการณ์มาก