วันนี้ (16 ก.ย.2562) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้นำคณะสื่อมวลชน เข้าสำรวจสนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ที่จะใช้เป็น 1 ใน 4 สนามหลัก ในการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพช่วงระหว่างวันที่ 8-26 มกราคมปีหน้า
สำหรับสนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งถือเป็นสนามหลักของการแข่งขัน ได้มีการซ่อมแซมและเปลี่ยนเก้าอี้บนอัฒจรรย์ไปแล้วบางส่วน แต่ในส่วนอื่นๆ อย่างห้องแต่งตัวนักกีฬาสกอร์บอร์ด โซนวีไอพี และห้องสื่อมวลชน ยังขาดแค่การจัดจ้างบริษัทผู้รับเหมาเท่านั้น โดยคาดว่าจะได้ผู้รับผิดชอบภายในสัปดาห์นี้
ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้ให้คำแนะนำให้ดำเนินการเฉพาะส่วนที่เอเอฟซีกำหนดเท่านั้น เพื่อให้ทันส่งมอบให้กับเอเอฟซีในวันที่ 20 ธันวาคม และเชื่อมั่นว่าไทยจะพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลรายการใหญ่ระดับทวีปเอเชียรายการนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ การปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถานครั้งนี้ ถือเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่กีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อปี 2541 หรือ 21ปี มาแล้ว
ส่วนการหาสนามแทนที่สนามกีฬาสมโภช 700ปี จังหวัดเชียงใหม่ ที่เสร็จไม่ทันใช้จัดการแข่งขันครั้งนี้ ล่าสุด ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลยืนยันแล้วว่าได้วาง 7 สนามของสโมสรในไทยลีก ได้แก่ บีจีปทุม ยูไนเต็ด, เมืองทอง ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, ราชบุรี มิตรผล, ชลบุรี เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี และเชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่งได้แจ้งกับทางเอเอฟซีไปแล้ว และทางเอเอฟซี จะเดินทางมาตรวจสนามช้าง อารีน่า อีกครั้งภายในสัปดาห์นี้