วันนี้ (16 ก.ย.2562) ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.1/2562 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ผู้ร้อง นางระพิพรรณ พงศ์เรื่องรอง ผู้ถูกกล่าวหา เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
วันนี้ผู้ถูกกล่าวหาทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 40 วรรคสอง ศาลจึงอ่านคำพิพากษาลับหลังผู้ถูกกล่าวหาและถือว่าผู้ถูกกล่าวหาทราบคำพิพากษาแล้ว
ศาลมีคำวินิจฉัยในสาระสำคัญว่า ผู้ถูกกล่าวหา(นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง) แสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน โดยระบุว่า มีหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ คือ สัญญาที่ผู้ถูกกล่าวหากู้ยืมเงินจำนวน 3 ฉบับ รวม 13 ล้านบาท โดยมิได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง แสดงรายได้ตามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 15 ล้านบาท โดยผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้รับเงินจริง แสดงรายได้จากสัญญาจ้างทำของของนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง คู่สมรส จำนวน 7 ล้านบาท โดยไม่มีหลักฐานที่มีน้ำหนักน่าเชื่อว่า นายอริสมันต์ได้มีการรับจ้างงาน ดังกล่าวจริง จึงเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จ การกระทำดังกล่าวทำขึ้นเพื่อปกปิดอำพรางแหล่งที่มาของทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรส
นอกจากนี้ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ระบุในบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินว่า เงินลงทุนของผู้ถูกกล่าวหาในบริษัทเฮ้าส์ ออฟ ฮาร์ท พรอพเพอร์ตี้ 201 จำกัด มูลค่า 25 ล้านบาท เป็นหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระเงินค่าหุ้น จึงทำให้เข้าใจว่า ผู้ถูกกล่าวหานำเงินไปลงทุนในบริษัทตามมูลค่าหุ้นดังกล่าว อันเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาจึงมีความผิดฐานจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อเท็จจริงอันควรแจ้งให้ทราบ โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินตามคำร้องให้จำคุกผู้ถูกกล่าวหา (นางระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง)มีกำหนด 2 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ และห้ามไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลา 5 ปื ในวันนี้ศาลได้ออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหามาบังคับตามคำพิพากษาโดยไม่มีกำหนดอายุความแล้ว