วันนี้ (16 ก.ย. 2562) วุฒิสภาพิจารณารายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศรอบที่ 2 ช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2562 ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ย้ำว่าจะนำข้อเสนอแนะของ ส.ว.ไปปรับปรุงและเร่งรัดการปฏิรูป พร้อมอธิบายเหตุผลของการทำหน้าที่ต่อเนื่องของคณะกรรมการปฏิรูป เพื่อติดตามตรวจสอบการดำเนินการตามแผนที่วางไว้ ซึ่งหากคณะกรรมการทักท้วงผู้ปฏิบัติ แต่ยังมีการฝ่าฝืนและดำเนินการ คณะกรรมการปฏิรูปจะได้แจ้งปัญหาแก่ ครม.และคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติให้แก้ไข หรือ ลงโทษ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย รายงานด้วยว่าตามแผนการปฏิรูปกำหนดกิจกรรมไว้กว่า 1200 กิจกรรมและดำเนินการแล้วเสร็จ 121 กิจกรรม และในรอบ 3 เดือน ความคืบหน้าการปฏิรูปแต่ละด้านเป็นที่น่าพอใจและมีนัยยะสำคัญ เช่น การปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน มีการดำเนินการจัดทำมาตฐานทางจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐเสร็จสิ้นแล้ว ,การจัดตั้งศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ ตามแผนที่คณะกรรมการปฏิรูปพลังงานทำแผนไว้, ส่วนการปฏิรูปด้านกฎหมายมีจัดทำกฎหมาย และอนุบัญญัติกฎหมาย เช่น กฎหมายขายฝากที่บังคับใช้แล้ว และมีอีกหลายฉบับยังอยู่ในกระบวนการดำเนินการของคณะกรรมการกฤษฎีกา
ขณะที่สมาชิกวุฒิสภาต่างอภิปรายข้อเสนอแนะ เช่น พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ ,นายอำพล จินดาวัฒนะ ,นายเฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ,นายวันชัย สอนศิริ โดยส่วนหนึ่งเห็นว่า การปฏิรูปหลายด้านติดตามยากและที่กำหนดไว้ว่าจะต้องเห็นผลสำเร็จภายใน5 ปี แต่ตอนนี้ผ่านมาแล้ว2 ปียังไม่มีความชัดเจนมากนัก
และมีข้อเสนอเกี่ยวกับการปฏิรูปการศึกษา โดยเสนอให้พิจารณาตั้งคณะกรรมาการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยฝ่ายบริหารเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ ทั้งนี้มี ส่วนการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมสมาชิกวุฒิสภาคาดหวัง ให้กระบวนการไกล่เกลี่ยที่เป็นผลมากกว่านี้ ตามที่มีการจัดทนายความอาสาตามสถานีตำรวจ เพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงในกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับการสืบพยาน
โดยการประชุมวุฒิสภาวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย. 2562) มีวาระเลือกกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ในสัดส่วนที่ที่ประชุมวุฒิสภาเลือก จำนวน 5 คน และการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา หรือวิปวุฒิสภา จำนวน 42 คน