วันที่ 22 กันยายนของทุกปี ตรงกับวันปลอดรถโลก หรือ World Car Free Day ทำให้วันนี้กรุงเทพมหานครได้จัดกิจกรรม Bangkok Car Free Day 2019 ขึ้น ตามโครงการส่งเสริมการเดินทางอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด "เดินทางร่วมกัน วันพาหนะส่วนรวม"
โดยผู้บริหารกรุงเทพมหานคร นำโดยนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ร่วมกันปั่นจักรยานรวมระยะทาง 10 กิโลเมตร เริ่มจากถนนราชดำริ ถนนเพลินจิต ถนนวิทยุ ถนนเพชรบุรี ถนนบรรทัดทอง และถนนพระรามที่ 4 เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว และหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะหรือรถจักรยานแทน เพื่อลดการสร้างมลพิษทางอากาศ
นายสุพต คงดี นักปั่นจักรยาน บอกว่า เห็นด้วยกับการส่งเสริมให้คนหันมาใช้บริการรถสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนตัว หรือรถจักรยาน พร้อมเสนอให้ กทม.ปรับปรุงเส้นทางจักรยานให้ดีขึ้น เนื่องจากบางจุดยังไม่เอื้อต่อการใช้จักรยาน ทั้งมีรถยนต์จอดกีดขวางเส้นทางและถนนขรุขระ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
เสนอให้มีแนวที่คนขับรถยนต์สามารถรู้ว่ามีคนขี่จักรยานต์อยู่บนถนน อย่างเช่นพ่นป้ายเป็นรูปจักรยานบนถนนจะดีกว่า เพราะริมถนนมักมีรถเข็น หรือรถต่างๆมาจอดเยอะ ก็อันตราย
ด้านนายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เพื่อพัฒนาการเดินทางในกรุงเทพฯและพื้นที่ต่อเนื่องให้เป็นไปด้วยความสะดวกและรวดเร็ว จึงมีแนวคิดพัฒนาระบบการจราจรและขนส่งอย่างยั่งยืน ภายใน 2 ปีนี้ เพื่อให้คนหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะแทนรถยนต์ส่วนตัว ขณะเดียวกันเตรียมพัฒนาเส้นทางจักรยานในจุดเดิม เช่นบริเวณรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เพื่อให้การใช้จักรยานมีความสะดวกและปลอดภัย
ผมว่าใน 2 ปีข้างหน้า ก็จะเห็นการเชื่อมโยงโครงข่าย ทำให้คนที่ใช้บริการขนส่งสาธารณะมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ส่วนการใช้จักรยานนั้น รองผู้ว่า กทม.ระุบว่า ได้ให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ไปสำรวจดูว่ามีจุดเดิมที่เคยทำ อย่างเช่นช่วงของเกาะรัตนโกสินทร์ หรือว่าในโซนด้านนอก ทางเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา เพื่อพัฒนาให้มีสภาพดีขึ้น ประชาชนมีความสะดวกสบายมากขึ้น ที่ใช้การขนส่งโดยไม่ใช้เครื่องยนต์
กรุงเทพมหานครได้จัดทำแผนพัฒนา กทม.ระยะ 20 ปี ตั้งแต่ปี 2556-2575 และแผนปฏิบัติราชการ ประจำปี 2562 ซึ่งมุ่งแก้ไขปัญหาด้านการจราจร เพื่อให้ประชาชนเดินทางด้วยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัย โดยเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพและครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมทั้งรณรงค์ให้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้บริการขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น