วันนี้(4ต.ค.62)ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ คุมตัวนายมะหะมะรอมือลี สาแม แกนนำกลุ่มBRN ผู้ต้องหาตามหมายจับของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ข้อหากบฏก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง
คดีนี้ ดีเอสไอสืบสวนจนพบว่านายมะหะมะรอมือลี มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการบีอาร์เอ็น โคคออดิเนต ขบวนการแบ่งแยกดินแดนใน 5 จังหวัดภาคใต้ มีพฤติการณ์ใช้กำลังประทุษร้าย ปลุกระดมแนวคิดโดยนำประวัติศาสตร์ หรือคำสอนมาบิดเบือน นำความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐมาอ้างเป็นเงื่อนไขแบ่งแยกดินแดน / ใช้โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา โรงเรียนปอเนาะและตาดีกา หรือ โรงเรียนสอนเด็กเล็ก ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาสบังหน้า เป็นฐานในการปฏิบัติการ ปลุกระดมเด็กนักเรียน ใช้กิจกรรมทางโรงเรียนบังหน้า ในการฝึกกำลังและยุทธวิธีในการก่อความไม่สงบ
นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุปล้นอาวุธปืนของทางราชการจำนวน 4 คดี มีอาวุธปืนที่ถูกปล้น 4 ครั้ง รวม 478 กระบอก / ลอบวางระเบิดหน้าห้างพิธาน อ.เมือง จ.ปัตตานี และเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกหลายเหตุ ระหว่างปี 2536-2547 โดยผู้ต้องหาถูกดีเอสไอออกหมายจับและมีรางวัลนำจับ 500,000 บาท จึงหลบหนีคดีมาเรื่อยๆ นานถึง 14 ปี จนล่าสุดมาเป็นครูสอนศาสนา
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ เนื่องจากมีการขยายผลเหตุวางระเบิดและซุ่มยิง เจ้าหน้าที่อาสาชุดคุ้มครองตำบลนาประดู่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี ขณะดูแลความปลอดภัยครู โรงเรียนบ้านควนปะ ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 4 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งในที่เกิดเหตุพบโทรศัพท์ที่คาดว่าเป็นของคนร้ายตกอยู่ เมื่อขยายผลตรวจสอบเจ้าของซิมซึ่งเป็นเยาวชน ก็ทราบว่า นายมะหะมะรอมือลี เป็นครูสอนศาสนา จึงขอให้นักเรียนเปิดซิมให้ 2 ซิม ซิมหนึ่งใช้เอง อีกซิมให้เพื่อนไป
ซึ่งหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปที่หน่วยข่าวกรองทางทหารส่วนหน้า ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานีเพื่อซักถาม ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. ที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ก็ได้นำหมายจับมาแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหา โดยนายมะหะมะรอมือลี ยอมรับว่า เป็นสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ผ่านการสาบานตน ในปี 2526 ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าในพื้นที่ยะลา และให้นักเรียนเปิดซิมให้จริง แต่ปฏิเสธข้อหาที่ถูกดีเอสไอแจ้งทุกข้อกล่าวหา
ซึ่งหลังจากฝากขังแล้วเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะคุมตัวผู้ต้องหาไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนคดีระเบิดของ สภ.นาประดู่ เมื่อวันที่ 16 ก.ย. พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอศาลอนุมัติหมายจับ จากนั้นจึงจะดำเนินการอายัดตัวเพื่อไปดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ในคดีของ สภ.นาประดู่ ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คนเป็นครูสอน วิชาพละ ที่เดียวนายมะหะมะรอมือลี และได้ซิมการ์ดอีกอัน เพื่อนำไปก่อเหตุ โดยอยู่ระหว่างหลบหนี ซึ่งจะต้องถูกออกหมายจับด้วยเช่นกัน