กรณีที่สื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ภาพ "ฉลามวาฬ" โผล่ขึ้นมากินลูกปลา เคยและปลาหมึก นานเกือบ 1 ชั่วโมงในทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ชาวประมงนำเรือพากลุ่มนักตกปลาออกไปตกปลาในช่วงวันหยุด ระหว่างนั้นได้จอดลอยลำปั่นไฟล่อให้สัตว์น้ำมาตอม เพื่อนำไปทำเหยื่อตกปลา บริเวณห่างจากชายฝั่งบ้านกรูด-บ้านดอนสำราญ ประมาณ 300-400 เมตร
จากนั้นจึงพบฉลามวาฬ ซึ่งมีขนาดความยาวประมาณ 2-3 เมตร น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม ว่ายเข้าใกล้เรือที่กำลังปั่นไฟ และโผล่อ้าปากขึ้นมาไล่ต้อนกินอาหาร ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือเป็นอย่างมาก
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ระบุว่า การพบฉลามวาฬในทะเลทั้งฝั่งชุมพรและประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งฝั่งทะเลอันดามัน ถือเป็นตัวชี้วัดที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทย เนื่องจากฉลามวาฬกินทั้งลูกปลาและแพลงตอนเป็นอาหาร พร้อมเตือนชาวประมงว่า หากนำเรือพานักท่องเที่ยวไปตกปลาและเจอฉลามวาฬ ขอให้จอดเรือนิ่งๆ อย่ารุกไล่ กระโดดลงไปในน้ำหรือสัมผัส ห้ามให้อาหารและห้ามรบกวนฉลามวาฬเด็ดขาด
อธิบดี ทช. กล่าวอีกว่า ข้อมูลของชาวประมงบ้านกรูดที่บอกว่าพบฉลามวาฬแต่ละครั้งไม่ซ้ำกัน พร้อมแจ้งว่าในช่วงปี 2562 พบแล้ว 10 ครั้งและให้ข้อมูลว่ามีประมาณ 5-6 ตัว ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและเป็นประโยชน์ ซึ่ง ทช.จะบันทึกไว้เป็นข้อมูล รวมถึงการสำรวจเช่นเดียวกับวาฬบรูด้าที่ได้ดำเนินการแล้ว