ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (10 ต.ค.2562) นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังรับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานของ บริษัท การบินไทย จำกัด มหาชน ว่า ได้สั่งการให้จัดทำแผนฟื้นฟูและแผนบริหารธุรกิจฉบับใหม่ หลังจากเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2562 บอร์ดการบินไทยมีมติให้ทบทวนการจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ ออกไปก่อน 6 เดือน
เนื่องจากสถานการณ์ตลาดปัจจุบัน เปลี่ยนแปลง พร้อมยอมรับว่า ธุรกิจการบินปัจจุบันมีการแข่งขันสูงมาก หลายประเด็นการบินไทยไม่ได้รับแต้มต่อ เช่น เรื่องของราคาเชื้อเพลิง เรื่องของน่านฟ้าที่เปิดเสรี และการบินไทยอยู่ในภาวะขาดทุนสะสมต่อเนื่อง ผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จึงขอทราบผลประกอบการเป็นรายเดือน และให้บริษัทจัดทำแผนฟื้นฟูบริษัทและแผนบริหารธุรกิจฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือนนับจากวันนี้
รมช.คมนาคม กล่าวเพิ่มเติมว่า่ สำหรับแผนฟื้นฟูองค์กรและแผนบริหารธุรกิจใหม่ ต้องมีเป้าหมายชัดเจนเพื่อลดการขาดทุน เพิ่มกำไร เพิ่มยอดขาย สร้างความพึงพอใจ รวมถึงการปรับเส้นทางการบินให้เหมาะสม โดยใช้ระบบไอทีเข้ามาบูรณาการทำงาน เช่น การจองตั๋วออนไลน์และแผนการตลาด
ส่วนแผนการจัดหาเครื่องบินใหม่ 38 ลำ ตามที่บอร์ดฯ ได้สั่งให้ทบทวนแผนใหม่นั้น การบินไทยจะต้องรายงานความคืบหน้าแผนการดำเนินงานเป็นประจำทุกเดือน จนกว่าแผนจะแล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลา 6 เดือน และให้รายงานความก้าวหน้า เรื่องการลงทุนของบริษัทในศูนย์ซ่อมบำรุง (MRO) ที่ท่าอากาศยานอู่ตะเภาทุก 15 วัน โดยเคร่งครัดและให้เร่งหาข้อสรุปโดยเร็ว
ด้านนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท การบินไทย จำกัด กล่าวว่า บอร์ดฯ ในฐานะผู้กำกับดูแลฝ่ายบริหาร ได้พิจารณาคำถามของ รมช.คมนาคม และมีข้อกังวลเช่นเดียวกัน เพราะพบว่าสมมติฐานในการพิจารณาแผนจัดหาเครื่องบินในขณะนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป เช่น การทบทวนสมมติฐานใหม่ เนื่องจากแผนจัดหาฝูงบินเดิม จัดทำในช่วงที่ไม่มีผลกระทบสงครามการค้า แต่ปัจจุบันปัจจัยดังกล่าวกระทบต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยฐานะทางการเงินที่ต้องทบทวน ปัญหาการแข่งขันในอุตสาหกรรมการบิน และเส้นทางบินที่ไม่ได้รับความนิยมแล้ว
พร้อมยืนยันว่า การทบทวนแผนจัดหาฝูงบินใหม่นี้ ไม่ได้เป็นการชะลอแผนให้ล่าช้า แต่เป็นการทบทวนให้รอบคอบ เพราะการซื้อเครื่องบินถือเป็นการลงทุน และเป็นแผนธุรกิจในระยะยาว จึงมีมติให้ฝ่ายบริหารการบินไทยทบทวนแผนจัดหาฝูงบินใหม่ และนำกลับมาเสนออีกครั้งภายใน 6 เดือน
ขณะที่ นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาน) เปิดเผยว่า ได้เร่งจัดทำแผนระยะสั้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้เพื่อฟื้นฟูให้ได้มากที่สุด และมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการตามแผนได้ เช่น การเพิ่มรายได้ที่มุ่งมั่นจะขายตั๋วโดยสารให้ได้มากที่สุด และช่วงนี้จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นจึงจะมีการทำการตลาดที่ตัวบุคคล และใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์ข้อมูลช่วยในการขายตั๋วโดยสาร ซึ่งการบินไทยฯก็เตรียมที่จะมีการเปิดให้บริการ E-Commerce สินค้าออนไลน์ในช่วงสิ้นเดือน ต.ค.นี้ และการบริหารจัดการควบคุมลดค่าใช้จ่าย นอกจากนี้จะมีการหารือร่วมกับพนักงานในการลดวันหยุดลง 1 วันเพื่อช่วยในเรื่องของค่าแรงการทำงานล่วงเวลา (OT) และลดค่าแรงของผู้บริหารบางส่วนลง โดยมองว่าเจตนาดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือองค์กรในการคุมค่าใช้จ่าย
สำหรับเรื่องค่าใช้จ่าย จะเน้นลดค่าใช้จ่ายการจัดซื้อจัดจ้างลงร้อยละ 10 เน้นประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายทั้งระบบ และในเรื่องของการจัดหาฝูงบินก็จะต้องวิเคราะห์เส้นทางการบิน ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนข้างหน้า การติดตามการปลดระวางและการจำหน่ายเครื่องบินและทรัพย์สินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ การวางแผนการลดหนี้สิ้นระยะยาวอย่างเป็นระบบ
ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา การบินไทยได้ลดหนี้ลงประมาณ 46,000 ล้านบาท แม้ว่าไม่มีการก่อหนี้เพิ่มแต่สัดส่วนหนี้สินต่อทุนก็ยังสูงอยู่จึงจำเป็นต้องมีการพิจารณาโครงสร้างของเงินทุนทั้งระบบโดยจะมีการหารือกับคณะกรรมการฯและขอความเห็นชอบกับหน่วยงานกำกับอย่างกระทรวงคมนาคมต่อไป รวมถึงนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้มีการสั่งการให้เร่งดำเนินการและรายงานผลเป็นระยะ