ยึดทรัพย์เครือข่ายค้ายาเสพติด "มันทุกเม็ด" พบเงินหมุนเวียนกว่า 1 พันล้านบาท

วันนี้ (16 ต.ค. 2562) ที่อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ตำรวจกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ (กก.ปพ.) พร้อมด้วยกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 3 (บก.ปส.3) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักหลังหนึ่งในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านถนนศรีนครินทร์ หลังการสืบสวนพบว่ามีเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดมาถึงเจ้าของบ้านพักหลังนี้

การตรวจค้นในบ้านพบบิดาและมารดาของนายนฤพล ภาพพิธี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่ในบ้านพัก แต่ไม่พบตัวผู้ต้องหาเนื่องจากพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจากอาการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี ซึ่งตำรวจได้นำหมายจับไปแสดงที่โรงพยาบาลและควบคุมตัวไว้ระหว่างพักรักษาตัว นอกจากนั้นยังออกหมายจับนางสาวปัทมา บัวทอง ซึ่งเป็นภรรยาของนายนฤพล ที่ไปเฝ้าไข้อยู่ที่โรงพยาบาลด้วย และได้นำตัวมาตรวจค้นต่อที่บ้านพัก

เตรียมเงินไปเข้าธนาคารวางอยู่บนโต๊ะ 6.5 ล้านบาท

ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตรวจค้นก็พบกระเป๋าสะพายวางอยู่ที่เก้าอี้โต๊ะกินข้าวกลางบ้านจึงเรียกให้บิดาของผู้ต้องหามาร่วมเปิดตรวจสอบ เมื่อเปิดตรวจสอบก็พบเงินสดเป็นธนบัตรใบละ 1,000 บาทจำนวนมาก รวมเป็นเงิน 6,500,000 บาท ถูกบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกอีกชั้นหนึ่งถุงละ 1,500,000 บาท โดยที่บิดาของผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้ว่าเงินจำนวนนี้มาจากไหน แต่รู้เพียงว่าบุตรชายทำธุรกิจเกี่ยวกับบ่อนการพนันในประเทศเพื่อนบ้านและนำเงินมาไว้ที่บ้านจำนวนมากหลายครั้ง ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

เงินสด 6.5 ล้านบาทที่เจ้าหน้าที่เปิดตรวจสอบในกระเป๋า

เงินสด 6.5 ล้านบาทที่เจอในกระเป๋าบนเก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าว

ค้นในห้องนอนเจอเงินอีกกว่า 10 ล้านบาท

จากนั้นได้ไปตรวจค้นบนชั้น 2 ของบ้านหลังนี้ภายในห้องนอนของผู้ต้องหาก็พบเงินสดอีก 3,100,000 บาท เงินสกุลเยนอีก 800,000 เยน พร้อมด้วยกระเป๋า และนาฬิกาแบรนด์เนมอีกจำวนมาก และตู้นิรภัยอีก 2 ตู้ วางอยู่ข้างเตียงนอนเมื่อเปิดตรวจสอบก็พบเงินสดรวมกัน 2 ตู้ เป็นเงิน 8,000,000 บาท และทองคำแท่งน้ำหนัก 10 บาท และมีรถยนต์หรูในครอบครองอีก 3 คัน รวมเงินสดและทรัพย์สินอื่นๆ ภายในบ้านหลังนี้มากกว่า 100 ล้านบาท 

เงินสด 3.1 ล้านบาท พร้อมของใช้แบรนด์เนมที่ตรวจยึดได้ในห้องนอน

คุมตัวผู้ต้องหาเปิดตู้นิรภัยในห้องนอนพบเงินสดอีก 8 ล้านบาท

เงินสดที่พบในตู้นิรภัย

ค้นบ้านญาติเจอเงินอีก 5 ล้านบาทในเครื่องซักผ้า

ชุดตรวจสอบทรัพย์สินได้กระจายกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมายภายในจ.สมุทรปราการ วันนี้รวม 3 จุด โดยอีกจุดหนึ่งคือบ้านของน้าชายของนายนฤพล ผู้ต้องหา ที่อยู่ย่านถนนแพรกษา ที่บ้านเปิดเป็นร้านขายของชำเล็กๆ พบน้าชายและภรรยาอยู่ในบ้าน 2 คน การตรวจค้นบ้านหลังนี้ เนื่องจากตำรวจพบข้อมูลเส้นทางการเงิน และพบว่าน้าชายของผู้ต้องหามีส่วนในการนำเงินที่ได้จากผู้ต้องหาไปฝากในธนาคารด้วยเป็นประจำ และก็พบเงินสด 1,500,000 บาท อยู่ในถุงพลาสติก ซ่อนอยู่ในเครื่องซักผ้าด้านหลังบ้านเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ 

เมื่อสอบสวนว่าเงินจำนวนนี้มาจากที่ไหน เจ้าของบ้านก็อ้างว่าไม่รู้แต่มีคนนำมาส่งให้ไว้เพื่อเตรียมนำไปเข้าในบัญชีธนาคารตามคำสั่งของนายนฤพล โดยที่ไม่รู้ว่าโอนเงินไปให้ใครและเป็นเงินเกี่ยวกับอะไร พร้อมยืนยันว่าไม่เคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

เงินสด 5.5 ล้านบาท ที่พบซ่อนอยู่ในเครื่องซักผ้า

จับเพื่อนผู้ต้องหาทำหน้าที่ถอน-ฝากเงินวันละ 5-6 ล้านบาท

อีกคนที่ศาลอนุมัติหมายจับในข้อหาเดียวกันคือนางวิมล ชื่นชมวัฒนา เพื่อนของนางสาวปัทมา ผู้ต้องหาอีกคน โดยการสืบสวนพบว่าทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีรับโอนและฝากเงินนำมาส่งให้กับผู้ต้องหาที่บ้านหลังนี้ โดยที่เงินจำนวน 6,500,000 บาท ที่ตรวจยึดได้ก็เป็นเงินที่นางวิมลเป็นคนเบิกเงินมาให้เมื่อวานที่ผ่านมา

เพื่อนของผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่ถอนเงินมาให้

นางวิมล ยอมรับว่าเป็นคนรับจ้างฝากเงินและโอนเงินให้กับผู้ต้องหาทั้งสองคนนี้มาประมาณ 1 ปีแล้ว โดยแต่ละครั้งจะเบิกเงินออกจากธนาคารครั้งละไม่ต่ำกว่า 5,000,000 บาท และเมื่อได้เงินมาก็จะนำมาส่งให้ที่บ้านหลังนี้ ได้ค่าจ้างเพียงเดือนละ 15,000 บาท โดยที่อ้างว่าไม่รู้ว่าเป็นเงินเกี่ยวกับอะไร แต่เมื่อตรวจสอบในบ้านพักของนางวิมล พบบัญชี 6 ธนาคารและมีสมุดบัญชีที่มีเงินหมุนเวียนเข้าออกรวมทั้งสลิปถอนเงินจากธนาคารจำนวนมาก ซึ่งตำรวจได้ยึดไปตรวจสอบทั้งหมดแล้ว

สมุดบัญชีธนาคารจำนวนมากของผู้ต้องหา

สลิปถอนเงินของธนาคารหลายธนาคารที่ตรวจพบในบ้านของผู้ต้องหา

พบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท

พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. เปิดเผยว่าการจับผู้ต้องหากลุ่มนี้เป็นการขยายผลมาจากการจับนายมงคล หอมนาน กับพวกพร้อมของกลางเป็นยาบ้า 500,000 เม็ด ที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อกลางปีที่ผ่านมา จากนั้นได้สืบสวนเส้นทางการเงินและการสั่งการค้ายาเสพติดของผู้ต้องหาก็พบว่ามีนายปัณณวิชญ์ ประทุม หรือ โก๋แก่ หัวหน้าเครือข่ายค้ายาเสพติด "มันทุกเม็ด" เป็นผู้สั่งการให้นำยาเสพติดไปส่ง 

ผู้ต้องหาที่ถูกจับพร้อมยาบ้า 5 แสนเม็ด ก่อนขยายผลเส้นทางการเงินมาถึงเครือข่ายนี้

ส่วนเส้นทางการเงินก็พบว่านำเงินโอนให้กับนายศักดิ์ชัย กันต่าย และเชื่อมโยงไปอีกหลายบัญชีรวมทั้งบัญชีที่ได้เข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์ในวันนี้ ซึ่งก็ยังพบว่านอกจากเป็นเงินธุรกิจยาเสพติดแล้ว ยังมีเกี่ยวข้องกับธุรกิจบ่อนการพนันออนไลน์ที่นำมาฟอกเงินผ่านกลุ่มเหล่านี้ และเมื่อตรวจสอบบัญชีย้อนหลังไปเพียง 1 ปี พบมีเงินหมุนเวียนเข้าออกในบัญชีมากกว่า 1,000 ล้านบาท 

ผบช.ปส. แถลงผลการจับกุมยึดทรัพย์กลุ่มฟอกเงินเครือข่ายค้ายาเสพติดมันทุกเม็ด