วันนี้ (21 ต.ค.2562) กระทรวงมหาดไทยชิลี ขยายพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินให้ครอบคลุมถึงเมืองอื่นๆ ทั้งทางตอนเหนือและตอนใต้ของประเทศ นอกเหนือจากกรุงซานติอาโก หลังจากเกิดเหตุปล้นสะดมและเผาโรงงานสิ่งทอ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตจากเหตุจลาจลเพิ่มขึ้นเป็น 7 คนแล้ว
ขณะที่มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ประท้วงทั่วประเทศมากกว่า 1,460 คน และจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทำให้มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน
การประท้วงครั้งนี้มีชนวนเหตุมาจากการประกาศขึ้นค่าโดยสารรถไฟใต้ดินของทางการชิลี ซึ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจ และแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศระงับมาตรการขึ้นราคาดังกล่าวแล้ว แต่เหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นยังสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเรื่องค่าครองชีพและความไม่เท่าเทียมที่หยั่งรากลึกในสังคม
ด้านนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นในชิลีว่า เป็นผลจากการที่ผู้ปกครองชิลีไม่กล้าแก้รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้น ในสมัยของอดีตผู้นำเผด็จการอย่างออกุสโต ปิโนเชต์ และชาวชิลีกำลังส่งสัญญาณถึงรัฐบาลว่าพวกเขาเผชิญปัญหาต่างๆ ที่ยืดเยื้อมาแล้วถึง 30 ปี